What’s in Bag : Bubba Watson

 

ต้นปี 2018 ถือเป็นช่วงที่เราได้เห็นนักกอล์ฟชื่อดังหลายคนกลับมาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม และคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น ฟิล มิคเคลสัน, รอรี่ แม็คอิลรอย, เจสัน เดย์ รวมถึง “บับบา วัตสัน”

วัตสัน ที่เสียสถิติคว้าแชมป์ไม่ได้เลยในปี 2017 แต่กลับมาเครื่องร้อนตั้งแต่ต้นปี 2018 เมื่อกวาดไปแล้ว 2 แชมป์คือ เจเนซิส โอเพ่น และล่าสุดคือแชมป์รายการใหญ่อย่าง ดับเบิ้ลยูจีซี-เดลล์ แมตช์เพลย์ ทั้งที่เจ้าตัวลงเล่นด้วยฐานะมือวางอันดับ 35 ของรายการเท่านั้น

บับบา ไล่ปราบเอาชนะคู่แข่งตั้งแต่ในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเสมอเพียงแมตช์เดียวกับ จูเลียน ซูริ แต่นอกนั้นชนะรวด ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ที่เขาเอาชนะ “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ ซึ่งกำลังโชว์ผลงานได้อย่างร้อนแรงในรอบ 8 คน รวมถึง จัสติน โธมัส ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจบด้วยการไล่ต้อน เควิน คิสเนอร์ ขาดลอยในรอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์ 7 และ 6 คว้าแชมป์ไปครองแบบไร้เทียมทาน

ค้นดูในถุงกอล์ฟของ บับบา มีหนึ่งสิ่งที่เขาปรับเปลี่ยนในปีนี้ และน่าจะเป็นหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เขากลับมาทำผลงานได้ดี นั่นคือ การกลับมาใช้ลูกกอล์ฟ Titleist Pro V1x อีกครั้ง หลังยกเลิกสัญญากับ Volvik ค่ายลูกกอล์ฟสีสันสดใสจากเกาหลี ดังที่เห็นแล้วว่าเกมการเล่นของเขาที่ออสติน คันทรีคลับ นั้นแน่นอนมาก การันตีด้วยสถิติกรีนส์อินเรกูเลชั่นมากถึงกว่า 70% ในปีนี้

สำหรับลูกกอล์ฟ Titleist Pro V1x เป็นลูกกอล์ฟแบบโครงสร้างสี่ชั้นที่ออกแบบมาให้ตีได้ไกล จากเทคโนโลยีแกนในแบบสองชั้น ที่ผ่านกระบวนผลิตแบบ ZG และรอยบุ๋มทรงกลมแบบใหม่จำนวน 328 รอยบุ๋ม ที่ให้วิถีลูกลอยสูง และให้ความสม่ำเสมอมากที่สุดเท่าที่แบรนด์เคยมีมา นอกจากนี้ยังคงให้ประสิทธิภาพที่สุดยอดในการเล่นลูกสั้น ด้วยเปลือกนอกที่ทำจากยูรีเทนอีลาสโทเมอร์ชนิดนุ่ม เพื่อให้ประสิทธิภาพในการควบคุมลูกให้ตกแล้วหยุดในการเล่นรอบกรีน

บับบา เคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาเกลียดการเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่อย่างมาก เพราะต้องใช้เวลานานกับการทำความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ชิ้นใหม่ แต่ถึงตอนนี้คงต้องบอกว่าไดรเวอร์ G400 โมเดล LST เข้ามือเจ้าตัวเป็นที่้เรียบร้อยแล้ว และส่งให้รั้งสถิติไดร์ฟไกลเป็นอันดับ 4 ของทัวร์อยู่ในตอนนี้ด้วยค่าเฉลี่ย 306.2 หลา

โมเดล LST ของไดรเวอร์ G400 เป็นโมเดลแยกจากรุ่นปกติที่ออกแบบวางตำแหน่งถ่วงน้ำหนักของทังสเตนให้เข้าใกล้กับหน้าไดรเวอร์ เพื่อลดการสปินของลูก แต่นอกจากนี้ยังคงมาพร้อมเทคโนโลยีหลักอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Faster Forged Face, Turbulators และ Dragonfly Technology ดีไซน์กระดองที่ได้แรงบันดาลใจมาจากปีกแมลงปอ เพื่อให้โครงสร้างที่บางแต่ยังคงความแข็งแกร่ง เพื่อเอื้อต่อการวางจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง

ถือเป็นการกลับมาเข้าฟอร์มที่ถูกที่ถูกเวลา ก่อนที่เมเจอร์แรกของปีอย่าง เดอะมาสเตอร์ส จะเปิดฉากขึ้น รวมถึงแน่นอนว่าผลงานครั้งนี้คงจะอยู่ในสายตาของ “จิม ฟิวริค” กัปตันทีมไรเดอร์คัพของสหรัฐฯ เพราะแน่นอนว่าแชมป์แมตช์เพลย์เช่นนี้น่าจะเป็นการพิสูจน์ได้ว่า “บับบา วัตสัน” จะเข้ามาเป็นตัวทำคะแนนให้ทีมได้อย่างแน่นอน ในศึกแห่งศักดิ์ศรี “ไรเดอร์คัพ ครั้งที่ 42” ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ช่วงปลายเดือนกันยายนนี้

What’s in Bag / Bubba Watson
Driver: PING G400 LST (8.5° set to 7.6°) with 44.5” Grafalloy Bi-Matrix shaft
3-wood: PING G (14.5° set to 13.2°) with Fujikura Tour Spec X shaft
Irons: PING iBlade (2), Ping S55 (4-PW) with True Temper Dynamic Gold Tour Issue X100 shafts
Wedges: PING Glide 2.0 (52°, 56°, 60°) with True Temper Dynamic Gold Tour Issue X100 shafts
Putter: PING PLD Anser, 34.25” length
Ball: Titleist Pro V1x