Odyssey White Hot OG Rossie S พัตเตอร์นำชัยของ “จอน ราห์ม”

คว้าแชมป์ไปอย่างสุดมันส์ สำหรับ “จอน ราห์ม” เมื่อพลิกจากตามหลังถึง 3 สโตรก มาแซงคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น พร้อมกับเป็นแชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตของเจ้าตัวอีกด้วย

จุดเปลี่ยนของ ราห์ม อยู่ที่สองหลุมแรกและสองหลุมสุดท้าย เมื่อเจ้าตัวประเดิมเก็บสองเบอร์ดี้ได้ตั้งแต่หัววัน เป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเองขยับขึ้นมามีลุ้นแชมป์ทันที ส่วนสองเบอร์ดี้ในสองหลุมสุดท้ายก็ทำได้ แม้ต้องเจอไลน์พัตต์ที่ทั้งยากและยาวก็ตาม

การกลับมาเข้าฟอร์มในเกมพัตต์ของ ราห์ม เหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เมื่อเกิดขึ้นจากการที่เขาเปลี่ยนพัตเตอร์ใหม่พอดี มาเป็น Odyssey White Hot OG Rossie S

ราห์ม เซ็นสัญญาเป็นผู้เล่นของ Callaway เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และพัตเตอร์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่เขาต้องเปลี่ยนด้วยเช่นกัน กระทั่งล่าสุดที่เหมือนว่าเขาจะเจอพัตเตอร์คู่ใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ก้านเหล็กวัย 26 ปีเปลี่ยนมาใช้พัตเตอร์ White Hot OG Rossie S ครั้งแรกในรายการเดอะเมโมเรียล ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ขึ้นเป็นผู้นำก่อนเล่นรอบสุดท้ายห่างอันดับ 2 ถึง 6 สโตรก ชนิดที่แทบจะเป็นแชมป์แน่นอนอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เขาถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ต้องจำใจถอนตัวออกจากการแข่งขัน พลาดทั้งแชมป์ และพลาดเงินรางวัล 1.65 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปอย่างน่าเสียดาย

สำหรับพัตเตอร์ White Hot OG Rossie S ที่ ราห์ม เปลี่ยนมาใช้ มีการปรับเล็กน้อยจากเวอร์ชั่นที่วางขายทั่วไป โดยถอดเส้นเล็งออกทั้งหมด และหน้าพัตเตอร์ที่ปกติเป็นหน้า White Hot แบบดั้งเดิม เปลี่ยนป็น Microhinge star insert แทน โดยเป็นหน้าอินเสิร์ทที่ให้ความรู้สึกเฟิร์มกว่า และลูกโรลออกจากหน้าพัตเตอร์ได้เร็วกว่า เมื่อเทียบกับตัวปกติ

ผู้ดูแลนักกอล์ฟในทัวร์ของ Odyssey ให้เหตุผลที่ ราห์ม ตัดสินใจเปลี่ยนพัตเตอร์ว่า เป็นเพราะช่วงก่อนหน้านี้เขาพัตต์ได้ไม่ดีนัก พัตต์สำคัญๆ พลาด รวมถึงพัตต์ระยะกลางที่มักพัตต์สั้น แต่ด้วยพัตเตอร์ตัวใหม่ที่ลูกออกจากหน้าพัตเตอร์เร็วขึ้นนี้ ช่วยให้เขาพัตต์ถึงหลุมมากขึ้น

ขณะที่คอพัตเตอร์ที่ ราห์ม เลือกใช้นั้น เป็นแบบ slant neck โดยให้เหตุผลว่าเหมาะกับแนวสโตรกพัตต์ของเขามากกกว่า ช่วยให้สแควร์หน้าพัตเตอร์ได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้กล้าพัตต์ให้น้ำหนักมากขึ้นด้วย

และนี่คืออุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้ ราห์ม ก้าวไปหยิบโทรฟี่แชมป์ยูเอส โอเพ่น ได้สำเร็จ

สำหรับ White Hot OG เป็นพัตเตอร์รุ่นใหม่ของ Odyssey ที่นำรุ่นยอดนิยมตลอดกาลอย่าง White Hot กลับมาทำใหม่อีกครั้ง ด้วยจุดเด่นคือหน้าอินเสิร์ท White Hot แบบดั้งเดิม นั่นคือ การใช้วัสดุเดียวกันกับวัสดุที่ใช้ทำเปลือกลูกกอล์ฟอย่างยูรีเทน ทำให้ได้ฟีลลิ่งการอิมแพ็คที่ผสานกันอย่างลงตัว ทั้งความรู้สึกที่นุ่มแต่แน่น รวมถึงเสียงที่นักกอล์ฟชื่นชอบ พร้อมด้วยประสิทธิภาพการโรลลูกที่แน่นอน

ด้านหัวพัตเตอร์เป็นสแตนเลสสตีลที่ขึ้นรูปโดยใช้กระบวนการมิลล์ ทำให้ได้เหลี่ยมคมที่ชัดเจน ทุกรายละเอียดผลิตอย่างแม่นยำ โดดเด่นด้วยสีเงินของสแตนเลสสตีล ให้ความรู้สึกที่คลาสสิคและพรีเมี่ยมไปพร้อมกัน อย่างที่นักกอล์ฟที่จริงจังกับเกมนั้นชื่นชอบ

แม้จะดั้งเดิม แต่ในพัตเตอร์รุ่นนี้ได้ถูกใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาเสริมเพิ่มเติมด้วย ไม่ว่าจะเป็นหมุดน้ำหนักที่ท้องพัตเตอร์ เพื่อให้ปรับเปลี่ยนน้ำหนักและสวิงบาลานซ์ได้อย่างที่นักกอล์ฟต้องการ

และอย่างยิ่งกับเทคโนโลยีเด่นของ Odyssey ในปัจจุบัน นั่นคือ ตัวเลือกก้าน Stroke Lab ที่เป็นก้านเหล็กและก้านกราไฟท์เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ทำให้จัดวางน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น และมาพร้อมสีพิเศษใช้เป็นสีแดงเป็นครั้งแรก เพื่อให้เหมาะกับการรุ่นที่สุดพิเศษเช่นนี้

นอกจากสี่พัตต์สำคัญที่ยอดเยี่ยมแล้ว เกมของ ราห์ม ที่ทอร์รีย์ไพนส์ถือว่าครบเครื่องรอบด้าน ทั้งจากเกมไดร์ฟที่มีสถิติไดร์ฟเฉลี่ย 317.6 หลา รั้งอันดับ 12 ของการแข่งขัน ด้วยไดรเวอร์ตัวแรง Callaway Epic Speed ที่ทำงานคู่กับก้าน Aldila Tour Green 75 TX

ส่วนสถิติขึ้นกรีนอยู่ที่ 49 กรีนส์อินเรกูเลชั่น เป็นอันดับ 5 ของการแข่งขัน เกิดขึ้นจากเหล็ก Callaway Apex TCB ที่มาพร้อมกับก้าน Project X 6.5 Rifle ขณะที่เกมข้างกรีนเป็นผลงานของ Callaway Jaws Forged เวดจ์ตัวใหม่ล่าสุด

ที่น่าสนใจคือ ราห์ม คว้าแชมป์ครั้งนี้ด้วยการที่เขาก็ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 จากหลายสำนักอยู่แล้ว แม้จะเพิ่งจากอาการป่วยโควิด-19 กลับมาลงแข่งเป็นรายการแรกก็ตาม

และเชื่อว่าเมื่อยิ่งตามหาพัตเตอร์คู่ใจได้แล้ว เขาคงได้เป็นตัวเต็งในอีกหลายๆ รายการแน่นอน…

**สั่งซื้อสินค้ากอล์ฟออนไลน์จากทุกแบรนด์ชั้นนำ ผ่าน HotGolf Shop สอบถามสินค้าได้ที่คลิก https://line.me/R/ti/p/%40hotgolf