“Mizuno ST190” ไดรเวอร์ที่สร้างเพื่อความเร็วสูง

Mizuno Golf Thailand ขอแนะนำตระกูลหัวไม้ใหม่ล่าสุด ST190 และ ST190G หัวไม้ความเร็วสูงรุ่นล่าสุดจากซีรี่ส์ ST (Speed Technology) ที่กลับมาอีกครั้งด้วยคุณสมบัติสร้างความเร็วจากทุกส่วนประกอบของหัวไม้

คงไม่มีนักกอล์ฟคนใดกล้าปฏิเสธประสิทธิภาพและความโดดเด่นของชุดเหล็ก Mizuno ไม่ว่าจะเป็นตระกูล MP ที่มักมาพร้อมกับประสิทธิภาพการอิมแพ็คที่นุ่มนวล การให้ฟีลลิ่งที่ยอดเยี่ยม และรูปลักษณ์ที่ดูสะอาดตา หรือซีรี่ส์ JPX ที่เด่นด้านการชดเชยความผิดพลาด และให้มุมมองการจรดลูกที่กะทัดรัดด้วยสันใบที่บาง

นักกอล์ฟหลายคนเมื่อพูดถึงอุปกรณ์กอล์ฟของ Mizuno มักจะคิดถึงชุดเหล็กก่อนเป็นอันดับแรก แต่ที่จริงแล้ว ไลน์หัวไม้ก็ถือเป็นหนึ่งในโปรดักส์ของ Mizuno Golf ด้วยเช่นกัน มีเทคโนโลยีหลายตัวที่พวกเขาเป็นผู้บุกเบิกนำมาใช้เป็นเจ้าแรกๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำไทเทเนียมมาใช้ประกอบในหัวไม้อย่างรุ่น Ti100, การใช้กระดองคาร์บอนคอมโพซิทใน MP-001 ระบบร่องเลื่อนถ่วงน้ำหนักที่เราเห็นในหลายๆ แบรนด์ปัจจุบันที่ Mizuno เริ่มใช้มาตั้งแต่รุ่น MP-600 กระทั่งมาถึงรุ่นล่าสุดอย่าง “ST190”

“ST190 เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทั้งหมดที่ Mizuno เคยออกแบบในหัวไม้ เราเริ่มต้นขั้นตอนการพัฒนาจากนักกอล์ฟในทัวร์ของเรา โดยอาศัยผลทดสอบจากในทัวร์เป็นตัวตั้งต้น ก่อนกลายมาเป็น ST190 ไดรเวอร์ความเร็วสูง ที่ให้สปินต่ำในระดับทัวร์ แต่ขณะเดียวกันก็ให้สปินเพิ่มขึ้นในระดับที่น่าพึงพอใจสำหรับนักกอล์ฟที่สวิงสปีดรองลงมา” Kei Tsjui, Lead Engineer Mizuno Golf เผย

ST190 ถูกสร้างให้เป็นไดรเวอร์ที่ให้อัตราสปินต่ำที่สุดเท่าที่ Mizuno เคยผลิตมา เสริมด้วยทุกองค์ประกอบที่เข้ามาช่วยในการสร้างสปีดและเพิ่มระยะทางในการไดร์ฟ นำมาโดยหน้าไม้ความเร็วสูง Forged SP700 Ti face และโครงสร้างหน้าไม้ CORTECH ที่ทั้งเบา และให้อัตราบอลสปีดที่สูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ตัวกระดองยังประกอบไปด้วยส่วนกระดองคาร์บอนคอมโพซิท และส่วนร่องสปริงที่ท้องไม้ที่ถูกขยายให้กว้างขึ้น เพื่อช่วยส่งแรงดีดไปยังหน้าไม้ให้ลูกพุ่งเพิ่มระยะได้มากกว่าเดิม

SPEED TECHNOLOGY –> PRIORITY #1 = SPEED
ST190 ถูกพัฒนาโดยให้ความสำคัญกับ Speed Technology ที่มา 4 จากองค์ประกอบหลัก ประกอบไปด้วย
-จากวัสดุที่มีความพิเศษ (Exotic Materials)
-จากโครงสร้างหัวไม้ (Head Construction)
-จากดีไซน์ของหัวไม้ (Head Geometry)
-จากตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงที่ดีที่สุด (Head Geometry)

หน้าไม้ Forged SP700 Ti face
หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของไดรเวอร์ ST190 คือ การใช้วัสดุหน้าไม้ Forged SP700 Ti face ที่แข็งแกร่งกว่าวัสดุ 6-4 Titanium ที่ใช้ในหัวไม้ทั่วไปกว่า 10% นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นที่เนื้อเหล็กนั้นมีความหนาแน่นกว่า ยืดหยุ่นสูง ให้เสียงที่คมชัด และเอื้อต่อการดีไซน์โครงสร้างหน้าไม้แบบ CORTECH ที่ใช้ในรุ่นนี้ ซึ่งค่อนข้างมีความซับซ้อนมาก นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอยู่ที่การให้ค่า COR ที่สูงกว่าในความเร็วหัวไม้ที่ความเร็ว 90, 100 และ 110 ไมล์ต่อชั่วโมง

Aggressive WAVE technology
ใน ST190 เป็นครั้งแรกที่ Mizuno นำสองเทคโนโลยีอันโดดเด่นในไดรเวอร์ของพวกเขาอย่าง WAVE Technology และ FAST TRACK มาทำงานร่วมกัน โดยร่องสปริงที่ท้องไม้ใน ST190 ถูกออกแบบให้มีความ Aggressive มากยิ่งขึ้น สร้างพลังในการดีดตัวของหัวไม้ได้ทรงพลังมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเอื้อให้ขนาดจุดสวีทสปอตกว้างกว่าเดิม เพื่อชดเชยความผิดพลาดจากการตีไม่โดนกลางหน้าไม้ได้ดียิ่งขึ้น

Optimized for More Speed
ไดรเวอร์ ST190 ถูกออกแบบให้สร้างความเร็วลูกกอล์ฟได้สูงสุดจากทุกองค์ประกอบของหัวไม้ ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาร่องท้องไม้ใหม่ ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อยืดหยุ่นได้มากขึ้น, หน้าไม้ CORTECH ที่พัฒนาให้หน้าไม้บางขึ้น และมีจุดสวีทสปอตที่กว้างขึ้น เสริมด้วยริ้วบริเวณส่วนด้านบนและด้านล่างหน้าไม้ เพื่อลดน้ำหนัก และขยายจุดสวีทสปอตที่กว้างกว่าเดิม ตลอดจนการพัฒนาระบบปรับคอไม้ภายในใหม่ เพื่อช่วยให้หน้าไม้ยืดหยุ่นขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการปะทะในบริเวณของโคน

12g Composite Crown
ในกระดองคาร์บอนของ ST190 ถูกออกแบบให้มีสัดส่วนเมื่อเทียบกับส่วนรอบนอกเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนมากที่สุด นับตั้งแต่รุ่น MX500 (คิดเป็น 5:1 เทียบกับ 2:1) และเอื้อให้สามารถจัดวางน้ำหนัก 7 กรัมไปอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำลง เพื่อเพิ่มมุมเหิน และอัตราสปินที่ดียิ่งขึ้น

Harmonic Impact Technology
ไดรเวอร์ ST190 มีการใช้ Harmonic Impact Technology ซึ่งมาจากผลการศึกษาอย่างจริงจังถึงการสั่นและคลื่นเสียง และนั่นส่งผลให้มีความจำเป็นที่ทีมออกแบบของ Mizuno ต้องเพิ่มริ้วภายในเพื่อได้เสียงการอิมแพ็คที่หนักแน่นและทรงพลังมากยิ่งขึ้น

ST190 VS ST190G
ไดรเวอร์ ST190 มีให้เลือกสองโมเดลระหว่าง ST190 และ ST190G โดย ST190 ถูกออกแบบให้มีสปินต่ำจนปานกลาง แต่ให้ความแน่นอนสูง การปรับแต่งน้ำหนักติดตั้งหมุดถ่วงน้ำหนักด้านหลัง 6 กรัมมาจากโรงงาน เพื่อช่วยเพิ่ม MOI และให้การชดเชยการผิดพลาดเมื่อไม่โดนกลางหน้าไม้ ขณะที่ ST190G ถูกเน้นมาให้สร้างสปินได้ต่ำ และแนบระบบร่องเลื่อนปรับแต่งน้ำหนัก FAST TRACK ที่ใส่หมุดถ่วงขนาด 7 กรัมมาให้ 2 ชิ้น ทำให้สามารถลดสปินจากที่ต่ำอยู่แล้วให้ต่ำยิ่งขึ้นสูงสุด 200rpm ตลอดจนปรับน้ำหนักเพื่อเอื้อต่อการแต่งช็อตไฟลท์บอลให้เฟดหรือดรอว

ST190 : ส่วนผสมของ MOI ที่สูง แต่สปินต่ำอย่างลงตัวที่สุด
-เพิ่มประสิทธิภาพ MOI ด้วยตัวถ่วงน้ำหนักขนาด 6 กรัม ได้ถึง 300 gcm^2
-ช่วยให้รักษาตำแหน่งที่ต่ำของ COG เอาไว้

ST190G : สามารถปรับแต่งน้ำหนัก เอื้อต่อการแต่งช็อต และลดสปินให้ต่ำลงได้อีก
-มาพร้อมระบบปรับตำแหน่งน้ำหนัก FAST TRACK ที่ใช้งานเข้าใจง่าย ด้วยหมุดน้ำหนัก 7 กรัมสองตัว
-สามารถปรับแต่งสปินที่ต่ำให้ต่ำยิ่งขึ้นได้ถึง 200 RPM
-ปรับไฟลท์บอลให้เฟดหรือดรอว์ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ด้วยการใส่หมุดถ่วงน้ำหนักไว้ฝั่งใดฝั่งหนึ่งเพียงฝั่งเดียว

นอกจากนี้ Mizuno Golf Thailand ยังขอแนะนำหัวไม้แฟร์เวย์ ST190 ที่ยังมาในคอนเซ็ปต์ “Speed-Engineered” สร้างความเร็วได้สูงจากทุกส่วนประกอบของหัวไม้

ในหัวไม้แฟร์เวย์ Mizuno ST190 ใช้เทคโนโลยีหลักหลายส่วนเช่นเดียวกับไดรเวอร์ ไล่ตั้งแต่ตัวกระดองกระดองคาร์บอนคอมโพซิทที่มีจุดเด่นเรื่องความเบาแต่แข็งแกร่ง เอื้อให้ทีมออกแบบสามารถโอนย้ายน้ำหนัก 4 กรัมไปอยู่ในจุดต่ำลง เมื่อรวมกับหน้าไม้ HT1770 Maraging พลังงานสูง ที่ออกแบบให้เป็นลักษณะดีพเฟซใกล้เคียงกับไดรเวอร์ เพื่อทำให้สร้างบอลสปีดได้สูง และมีสปินที่่ต่ำลง

ด้านร่องที่ท้องไม้ Amplified Wave Soleplate ในส่วนร่องแรกติดกับหน้าไม้ถูกออกแบบให้ลึกยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างความนิ่งของหัวไม้ และความสูงของสวีทสปอต และนอกจากนี้ก็มาพร้อมกับ Harmonic Impact Technology เพื่อให้สร้างพลังได้สูง และให้เสียงการอิมแพ็คที่หนักแน่น

Kei Tsjui กล่าวถึงหัวไม้แฟร์เวย์ ST190 ว่า “รูปแบบดีฟเฟซของหัวไม้แฟร์เวย์ ST190 ไม่ใช่แค่มีประโยชน์ในการใช้ตีจากแท่นทีอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังช่วยให้โครงสร้างหน้าไม้มีขนาดกว้างขึ้น และทำงานแบบเดียวกับไดรเวอร์ เพื่อช่วยในการสร้างบอลสปีดที่สูง ถึงแม้ว่าปกติแล้วมันจะส่งผลให้ตำแหน่งของสวีทสปอตอยู่สูงจนเกินไป และเป็นการเพิ่มการสปิน แต่ด้วยการเพิ่มกระดองคาร์บอนคอมโพซิท กับร่องที่ท้องไม้เข้ามา ก็ช่วยให้เราสามารถผสมผสานบอลสปีดที่สูง กับไฟลท์บอลที่เหมาะสมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในหัวไม้แฟร์เวย์”