Callaway Epic MAX Fast น้ำหนักเบา ตีง่าย แต่ทรงพลังแบบ Epic!!

ขึ้นหิ้งกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับตระกูล “Epic” ที่ทาง Callaway นำชื่อกลับมาใช้อีกครั้ง พร้อมกับเปิดตัวเทคโนโลยี Jailbreak A.I. Speed Frame ที่ใช้ A.I. มาออกแบบเป็นครั้งแรก

Jailbreak A.I. Speed Frame เป็นการใช้ A.I. พัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยี Jailbreak เดิม ที่เป็นเสาคาร์บอนสองเสาอยู่หลังหน้าไม้ เพื่อลดการสูญเสียพลังงานของกระดองและท้องไม้ แต่ A.I. ได้ยกระดับมันใหม่ให้กลายเป็นโครงสร้างกรอบสี่เหลี่ยม เพื่อลดการสูญเสียพลังงานในทุกทิศทาง ให้หน้าไม้กักเก็บพลังงาน และอัดลูกกอล์ฟออกจากหน้าไม้ไปได้อย่างทรงพลังยิ่งกว่าเดิม

ในรอบแรก Callaway Epic เปิดตัวมาให้เลือกมากถึง 3 โมเดลย่อย ที่มีแคเรกเตอร์แตกต่างกันชัดเจน โดยเฉพาะจากเทคโนโลยีหน้าไม้ Flash Face SS21 ที่ใช้ A.I. มาพัฒนาอย่างละเอียดซับซ้อน ให้แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นแต่ละองศา

ระหว่าง Epic Speed ที่สร้างความเร็วได้สูงสุด ด้วยรูปทรงที่แหวกอากาศ Cyclone Aero Shape, Epic MAX รุ่นที่เน้นการชดเชยความผิดพลาดสูงสุด เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการตีได้ไกลขึ้น ตรงขึ้น และด้วยการจัดวางน้ำหนักให้ได้ไฟลท์บอลติดดรอว์

สุดท้ายคือ Epic MAX LS โมเดลสำหรับนักกอล์ฟมือดี ที่ต้องบอลไฟลท์บอลพุ่งทะลุทะลวง สปินต่ำ และเป็นไดรเวอร์ที่เอื้อต่อการแต่งช็อตมากที่สุด

จาก 3 รุ่นดังกล่าว ล่าสุด Callaway ยังได้เปิดตัวอีกหนึ่งโมเดลมาเสริมเพิ่มเติม เพื่อให้ความครอบคลุมนักกอล์ฟมากที่สุด นั่นคือ Callaway Epic “MAX Fast”

Callaway Epic MAX Fast เป็นโมเดลที่ถูกต่อยอดมาจาก Epic MAX แต่ถูกปรับให้มีน้ำหนักเบาขึ้น ด้วยการตัดระบบปรับองศาที่คอไม้ออก น้ำหนักหัวเหลือเพียง 185 กรัม ช่วยให้นักกอล์ฟสวิงได้สบาย และเร่งความเร็วได้มากขึ้น เหมาะกับนักกอล์ฟซีเนียร์, นักกอล์ฟสตรี หรือนักกอล์ฟเด็ก ที่ต้องการประสิทธิภาพของ Callaway Epic แต่ด้วยน้ำหนักที่เหมาะกับตัวเองมากขึ้น

MAX Fast มีความคล้ายรุ่น MAX ตรงที่วางน้ำหนักภายในหัวไม้ และใช้หน้าไม้ Flash Face SS21 ให้เอื้อต่อการตีไฟลท์บอลดรอว์ รวมถึงการเข้าลูกในมุมเสย เพื่อให้ครบเครื่องประสิทธิภาพทั้งระยะและทิศทาง

แต่ที่ MAX Fast มีการปรับเพิ่มขึ้นคือ การทำสี PVD บริเวณหน้าไม้และท้องไม้ โดยเฉพาะตรงหน้าไม้ที่จะเป็นช่วยให้นักกอล์ฟเล็งจรดลูก และปะทะลูกได้สแควร์มากขึ้น

นอกจากนี้ความน่าสนใจในการเปิดตัวโมเดล MAX Fast นั่นคือการมาแบบครบไลน์อุปกรณ์ ตั้งแต่ไดรเวอร์, หัวไม้แฟร์เวย์, ไฮบริด ไปจนถึงชุดเหล็กเลยทีเดียว

ทั้งหมดจะมาในคอนเซ็ปต์เดียวกันกับไดรเวอร์ นั่นคือ น้ำหนักเบา เน้นตีง่ายที่สุด และให้การชดเชยความผิดพลาดสูงสุด

หัวไม้แฟร์เวย์ Callaway Epic MAX Fast ถูกปรับมาจากรุ่น MAX เช่นกัน แต่ปรับน้ำหนักให้เบาขึ้น แต่ยังคงมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ และวางน้ำหนักให้ตีไฟลท์บอลดรอว์ หน้าไม้ถูกออกแบบ A.I. ฟอร์จจากวัสดุ C300 maraging steel ที่ช่วยให้รีดหน้าไม้ได้บางและเบาขึ้น

จุดเด่นเลยคือ Jailbreak AI Velocity Blade ที่ออกแบบมาเฉพาะให้ต่างจากของไดรเวอร์ เพื่อให้พื้นที่ด้านล่างของหัวไม้แข็งขึ้น เนื่องจากเป็นจุดที่นักกอล์ฟตีผิดพลาดมากที่สุด ขณะเดียวกันก็ทำให้พื้นที่ด้านบนดีดตัวได้ดีขึ้น เพื่อช่วยให้ได้สปินเรตที่สม่ำเสมอ

ไฮบริด Callaway Epic MAX Fast ออกแบบรูปทรงให้เยื้องไปทางหัวไม้แฟร์เวย์ เพื่อสร้างความมั่นใจ และมีการใช้เทคโนโลยีเดียวกับไฮบริด Apex รุ่นล่าสุด แต่ยังคงเน้นน้ำหนักที่เบา ช่วยให้สวิงได้ง่าย หน้าไม้เป็นเฟซคัพที่ออกแบบโดย A.I. ส่วนภายในเป็น Jailbreak AI Velocity Blade แบบเดียวกับหัวไม้แฟร์เวย์

ชุดเหล็ก Callaway Epic MAX Fast เป็นรุ่นดีไซน์ใบใหญ่ แต่น้ำหนักเบา โครงสร้างเป็นแบบกลวงภายใน ทำให้หน้าเหล็กดีดตัวสร้างระยะทางได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งยังทำให้ยัดเทคโนโลยีมาแบบจัดเต็ม ทั้งหน้าไม้ดีไซน์เฉพาะของรุ่นนี้โดย A.I., tungsten energy core เพื่อทำให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำ, urethane microspheres ที่ช่วยลดแรงสั่น และเพิ่มการดีดตัวของหน้าเหล็กให้สูงยิ่งขึ้น

ไดรเวอร์ Callaway Epic MAX Fast วางขายที่ราคาทั่วไปชิ้นละ 25,000 บาท, หัวไม้แฟร์เวย์ราคา 14,500 บาท, ไฮบริดราคา 12,900 บาท และชุดเหล็กที่มาพร้อมกับก้านน้ำหนักเบาอย่าง NS Pro Zelos 7 (6-P, A) ที่ราคาเซ็ตละ 65,400 บาท

นักกอล์ฟที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมของอุปกรณ์กอล์ฟ Callaway Epic MAX Fast สามารถสอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้โดยตรงที่บริษัท ลีโอเนียน ประเทศไทย จำกัด โทร.02-056-1880

**สั่งซื้อสินค้ากอล์ฟออนไลน์จากทุกแบรนด์ชั้นนำ ผ่าน HotGolf Shop สอบถามสินค้าได้ที่คลิก https://line.me/R/ti/p/%40hotgolf