7 สัญญาณเตือน ลูกกอล์ฟที่ใช้อยู่อาจไม่เหมาะกับคุณ

การเลือกลูกกอล์ฟที่เหมาะกับตัวนักกอล์ฟเองนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการที่ต้องเดินไปท่ามกลางกับระเบิดทั้งหลาย โดยปกติแล้วการตัดสินใจที่จะใช้ลูกกอล์ฟจะอยู่ที่ ระยะทางที่ได้ การควบคุมลูก และราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนักกอล์ฟไม่ได้ใช้ลูกกอล์ฟลูกเดิมในการออกรอบทุกครั้ง

ซึ่งหากนักกอล์ฟสามารถหาลูกกอล์ฟที่เหมาะกับเกมการเล่นของตัวเองได้ นอกจากมันจะช่วยลดสกอร์ และทำให้เกมกอล์ฟดีขึ้น มันยังหลีกเลี่ยงทำให้นักกอล์ฟไม่ต้องหัวเสียกับระยะทางที่ได้ หรือการควบคุมลูกอีกด้วย เพราะฉะนั่นแล้ว ลองสังเกตสัญญาณเหล่านี้ เมื่อนักกอล์ฟเปลี่ยนลูกกอล์ฟ

1. ลูกกอล์ฟลอยได้ไม่ไกลพอ ครึ่งแรก
แน่นอนว่านักกอล์ฟทุกคนอยากให้ลูกของตัวเองลอยออกไปได้ไกล แต่ถ้าหากลูกกอล์ฟนั้นลอยตัวมากไปนั่นก็อาจเป็นเพราะว่าลูกสปินเยอะเกินไป แนะนำให้ลองปรับเป็นลูกกอล์ฟที่มีค่าสปินต่ำ มันจะช่วยลดไฟลท์บอลให้ต่ำลง

2. ลูกกอล์ฟลอยได้ไม่ไกลพอ ครึ่งหลัง
อีกสาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากการบีบตัวของลูกกอล์ฟ ลูกกอล์ฟแบบซอฟต์นั้นจะถูกบีบอัดได้ง่ายกว่า เพราะสปีดที่มีความเร็วสูง หากนักกอล์ฟมีสปีดในระดับกลางไปถึงสูงแนะนำให้นักกอล์ฟเปลี่ยนไปใช้ลูกที่เฟิร์มกว่าลูกกอล์ฟแบบซอฟต์ เพราะจะสามารถกักเก็บแรงจากการตีได้มากกว่า ทำให้ได้ระยะที่เพิ่มขึ้น

3. ช็อตที่ใช้เหล็กตีสูงเกินไป
แน่นอนว่าหัวข้อนี้ ทำให้ต้องกลับไปพิจารณาเรื่องการสปิน และความเฟิร์มซึ่งเกิดจากตัวแกนกลาง และโคฟเวอร์ของลูกกอล์ฟ ลูกกอล์ฟที่มีสปินต่ำ จะทำให้ความสูงของลูกลดน้อยลง แต่เมื่อตัวลูกตกพื้นอาจไม่หยุดเลยทันที ส่วนลูกกอล์ฟที่เฟิร์มมีแนวโน้มที่จะลอยได้สูงขึ้นเช่นกันเนื่องจากบีบอัดน้อยลงเมื่อกระทบหน้าไม้กอล์ฟ และพุ่งสูงขึ้น

4. การตีลูกชิพ
นี่เป็นปัญหาหลัก เนื่องจากลูกกอล์ฟที่เคลือบยูรีเทนจะให้สปินมากขึ้นในช็อตที่สั้นกว่ารอบกรีน ลูกกอล์ฟเกรดกลางๆ ส่วนใหญ่จะเคลือบด้วยไอโอโนเมอร์ที่มีความทนทานพอๆ กัน แต่โดยทั่วไปแล้วจะไม่ได้การควบคุมในระดับเดียวกัน โดยนักกอล์ฟสามารถทดสอบการชิพได้โดยลองนำลูกกอล์ฟทั้งสองแบบมาแล้วลองชิพด้วยระยะ 30 หลาและสังเกตว่านักกอล์ฟต้องการการควบคุมลูกแบบไหน

5. ลูกกอล์ฟกับแรงลม
โดยหัวข้อนี้เกี่ยวกับการสปินและแอโรไดนามิค อย่างที่อธิบายไปว่ายิ่งลูกกอล์ฟสปินมากเท่าไร ลูกกอล์ฟก็จะยิ่งลอยสูงเท่านั้นซึ่งในสถานการณ์ที่มีลมแรงแบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีเลย แต่หากนักกอล์ฟอยากเล่นลูกใต้ลม นักกอล์ฟก็ยังต้องการแรงสปินอยู่เพื่อหยุดลูก หลายๆ แบรนด์ได้ทำลูกกอล์ฟพรีเมียมออกมาใหม่ที่ใช้งานได้ดีในสถานการณ์แบบนี้ด้วยรูปแบบแอโรไดนามิคของรอยบุ๋มทำให้ลูกกอล์ฟพุ่งออกไปได้ตรงขึ้น โดยมักจะมาในตัวเลือกทั้งแบบเฟิร์ม/ซอฟต์ รวมถึงแบบสปินสูง / ต่ำ เพราะฉะนั้น นักกอล์ฟสามารถทดสอบและเลือกซื้อลูกกอล์ฟในแบบที่นักกอล์ฟต้องการได้

6. มองหาทิศทางลูกกอล์ฟไม่เจอ
แน่นอนว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดแค่กับนักกอล์ฟคนเดียว แต่ยังมีนักกอล์ฟอีกหลายคนที่เจอกับมันและในปัจจุบันลูกกอล์ฟก็ได้มีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้นในเฉดสีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง เขียว ส้ม หรือ ชมพู แนะนำให้เลือกสีที่สว่างๆ และโดดเด่นเมื่อลูกลอยอยู่กลางอากาศ จะได้สังเกตเห็นได้ง่าย พยายามอย่าเลือกลูกสีเข้มอย่างสีฟ้าหรือสีดำ เพราะจะทำให้มองเห็นลูกได้ยากหากแสงน้อย และยิ่งเป็นลูกสีฟ้าที่กลืนไปกับท้องฟ้ายิ่งแล้วใหญ่

7. การจัดตำแหน่งลูก
บางคนอาจจะชอบลูกกอล์ฟแบบสะอาดเอี่ยมไม่มีร่องรอย แต่กลับบางคนอาจจะอยากได้ตัวช่วย หากนักกอล์ฟต้องการแนวเส้นบนลูกกอล์ฟ นักกอล์ฟก็สามารถทำได้ โดยอาจจะใช้ปากกาวาดเอง หรือเลือกซื้อลูกกอล์ฟที่มีเส้นช่วยจัดแนวในการตีบนลูกก็ได้เช่นกัน ซึ่งการมีเส้นแบบนี้ จะช่วยในเรื่องการตีได้ ทำให้นักกอล์ฟตีตรงกลางหน้าไม้มากขึ้นนั่นเอง

นี่ก็เป็น 7 สัญญาณเตือนง่ายๆ สำหรับนักกอล์ฟที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะชอบลูกกอล์ฟแบบไหน หรือเหมาะกับลูกแบบไหน แน่นอนว่าในปัจจุบันนั้นมีตัวเลือกให้นักกอล์ฟเลือกมากมาย ขอแนะนำให้นักกอล์ฟไปทดลองหรือศึกษาหาข้อมูลดีๆ ว่าตัวเองเหมาะกับลูกกอล์ฟแบบไหน เวลาออกรอบลูกกอล์ฟจะได้พุ่งออกไปในแบบที่ท่านนักกอล์ฟต้องการ

ลูกกอล์ฟ KASCO รุ่น DNA โปรโมชั่น 1 แถม 1

โครงสร้างขนาด 2 ชั้น โดยมีไอโอโนเมอร์ด้านนอกที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้มีความนุ่มเวลาไม้ปะทะไปที่ลูก พร้อมกับเพิ่มระยะที่ไกลขึ้น และมีสปินปานกลาง

DNA Design for New Athletes
“MADE IN JAPAN”

– 372 dimples
– Highly elastic core
– Highly resilient ionomer cover
– ขนาด 2 ชั้น
– Feeling/Driver : Soft
– Spin : Medium

ปกติราคา 1,980 บาท พิเศษสำหรับสมาชิกเหลืองเพียง 990 บาทได้ 2 โหล

สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่  https://hotgolfclub.com/hotgolfshop/product/kasco-dna/