5 เหตุผล…ทำไมนักกอล์ฟสาวไทย มีโอกาสคว้าแชมป์ Honda LPGA ในปีนี้

เข้าสู่สัปดาห์ของการแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021” อย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับกอล์ฟรายการใหญ่ไฮไลท์ประจำทุกช่วงต้นปีของวงการกอล์ฟไทย ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 พ.ค.นี้ ณ สนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส จ.ชลบุรี

การแข่งขันในปีนี้ทั้งพิเศษและแตกต่างจากทุกปี ด้วยการจัดในรูปแบบสนามปิด ห้ามผู้ชมเข้าสนาม รวมถึงนักกอล์ฟที่เข้าแข่งขันก็จะอยู่ใน “Bubble” โดยจำกัดพื้นที่ให้อยู่แค่ในเฉพาะสนามแข่งขันกับโรงแรม แม้กระทั่งสื่อมวลชนก็จะถูกจำกัดให้ทำข่าวได้จากโรงแรมที่พักที่แยกออกไปเท่านั้น

ทั้งหมดนี้คือ ข้อกำหนดภายใต้การควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้การแข่งขันครั้งนี้ปลอดภัยมากที่สุด

แม้จะต่างไป ไร้กองเชียร์ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ยังคงเป็นการแข่งขันที่แฟนกอล์ฟชาวไทยรอติดตามมากที่สุด โดยเฉพาะการลุ้นเชียร์ให้นักกอล์ฟสาวไทยคว้าแชมป์ในบ้านของเราเอง หลังจากมีโอกาสใกล้เคียงมาแล้วหลายครั้งก่อนหน้านี้

โดยเฉพาะกับครั้งนี้ที่มีหลายปัจจัยน่าสนใจว่า น่าจะช่วยให้นักกอล์ฟสาวไทยของเรามีโอกาสมากยิ่งขึ้น และนี่คือ 5 เหตุผลจาก HotGolf ทำไมนักกอล์ฟสาวไทยถึงมีโอกาสคว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ในปีนี้

1. กำลังฟอร์มร้อนแรง
ในปีนี้เรามีนักกอล์ฟสาวไทยหลายคนที่กำลังทำผลงานได้อย่างร้อนแรง หนึ่งในคนที่ต้องพูดถึงมากที่สุดคือ “โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ กับผลงานที่เพิ่งคว้าแชมป์เมเจอร์ เอเอ็นเอ อินสไปเรชั่น มาสดๆ ร้อนๆ ด้วยลีลาการเล่นที่เร้าใจ โดยเฉพาะเกมไดร์ฟอันทรงพลัง ทำให้ล่าสุดเธอได้กลายมาเป็นขวัญใจแฟนกอล์ฟคนใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีไว้ต่อเนื่อง ด้วยการคว้าอันดับ 3 ร่วมจากการแข่งขันเอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่สิงคโปร์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อีกหนึ่งผู้เล่นที่ฟอร์มจับตามองไม่แพ้กันคือ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล วัย 18 ปี กับผลงานกวาด 5 แชมป์ในไทยแอลพีจีเอทัวร์เมื่อปีที่แล้ว ทั้งที่เพิ่งเทิร์นโปรเป็นปีแรก โดยครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่เธอลงแข่งขันรายการนี้ในฐานะผู้เล่นอาชีพอีกด้วย ด้วยประสบการณ์การแข่งรายการอาชีพที่มากขึ้น ทำให้โปรจีนเป็นอีกคนที่ถูกคาดหมายว่าน่าจะทำผลงานได้ดีในปีนี้
นอกจากสองผู้เล่นที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงแล้ว ในลิสต์นักกอล์ฟสาวไทยยังมีผู้เล่นมากประสบการณ์อย่าง “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล, “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล, “โปรจัสมิน” ธิฎาภา สุวัณณะปุระ ที่ต่างมีประสบการณ์คว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์มาแล้วด้วยกันทั้งสิ้น และถือเป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองเช่นกัน

2. เล่นโดยมีความกดดันน้อยกว่าเดิม
บรรยากาศการแข่งขันฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ในทุกๆ ปีนั้น ที่สนามจะเต็มไปด้วยกองเชียร์ชาวไทยที่เข้ามาให้กำลังนักกอล์ฟสาวไทยกันแน่นสนาม อย่างไรก็ตาม บางครั้งมักมีแฟนกอล์ฟบางคนที่อาจจะทำตัวไม่น่ารักไปบ้าง เช่น วิจารณ์การเล่นเสียงดัง หรือขาดมารยาทการเป็นผู้ชมในสนาม เรื่องเหล่านี้นักกอล์ฟสาวไทยจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะฟังภาษาออก โดยเฉพาะการเป็นก๊วนที่มักจะมีผู้ชมเดินตามเป็นจำนวนมาก แม้พฤติกรรมเหล่านี้จะเป็นส่วนน้อย แต่เชื่อว่ามีผลกระทบกับตัวนักกอล์ฟบ้างไม่มากก็น้อยเช่นกัน
ดังนั้น ด้วยการแข่งขันในปีนี้ที่เป็นรูปแบบสนามปิด บรรยากาศของการแข่งขันของนักกอล์ฟสาวไทยจึงจะแตกต่างออกไปเลย และน่าจะช่วยให้เล่นได้ผ่อนคลายขึ้น กดดันน้อยลงกว่าเดิม และเชื่อว่าปัจจัยนี้น่าจะช่วยให้พวกเธอทำผลงานได้ดีขึ้นไม่มากก็น้อย

3. มีสมาธิมากกว่าที่เคย
นอกจากการแข่งขันในสนามแล้ว บรรยากาศการแข่งขันนอกสนามในปีนี้ กิจกรรมต่างๆ จะถูกตัดให้เหลือน้อยที่สุด ด้วยรูปแบบที่ตัวนักกอล์ฟนั้นอยู่ใน Bubble ถูกจำกัดให้อยู่แค่แต่ในเฉพาะสนามแข่งขันกับโรงแรมที่พักเท่านั้น
เรื่องนี้ส่งผลดีต่อนักกอล์ฟสาวไทยในแง่หนึ่งคือ ช่วยให้มีสมาธิการแข่งขันมากขึ้น โดยไม่ต้องพะวงกับกิจกรรมอื่นๆ นอกสนาม หรือแม้แต่การพบปะกับญาติมิตรศิษย์สหาย เนื่องจากฝ่ายจัดการแข่งขันจะไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวกับแข่งขันเข้ามาในพื้นที่จัดการแข่งขันได้

4. อากาศร้อนและแปรปรวน
ปกติการแข่งขันฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ นั้นจะจัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ถึงแม้การเปลี่ยนมาเล่นในช่วงเดือนพฤษภาคมจะมีสภาพอากาศความร้อนที่่ต่างกันไม่มาก แต่ที่ต่างแน่นอนคือ สภาพแปรปรวนขออากาศที่มีมากกว่า
จากพยากรณ์อากาศเบื้องต้น เผยออกมาว่า ทั้ง 4 วันของการแข่งขันในปีนี้มีโอกาสที่ “ฝนจะตกทุกวัน” ซึ่งเป็นรูปแบบสภาพอากาศที่ต่างไปเลยจากการแข่งขันในปีที่ผ่านๆ มา และนี่อาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่นักกอล์ฟสาวไทยสามารถฉกฉวยมาเป็นข้อได้เปรียบของเรา

5. เล่นในสนามที่คุ้นเคย
เหตุผลข้อสุดท้ายอาจจะเป็นเหตุผลที่เราพูดกันมาแทบทุกปี แต่อย่างไรก็เป็นเหตุผลที่เราต้องหยิบยกมาพูดอีกครั้ง กับการได้เล่นในบ้านบนสนามแข่งขันที่คุ้นเคยอย่าง สยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส
นักกอล์ฟสาวไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยกับสนามแห่งนี้เป็นอย่างดี และบางคนอาจมีประสบการณ์การลงเล่นที่นี่เกิน 50 ครั้ง จนจดจำเลย์เอ้าท์ และตำแหน่งในการวางตัวได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่มีใครจะได้เปรียบในการแข่งขันครั้งนี้ไปมากกว่านักกอล์ฟสาวไทยของเราอีกแล้ว

ทั้งหมดนี้คือเหตุผลส่วนหนึ่งที่ HotGolf เรานำมาวิเคราะห์กัน แต่เสน่ห์ของการแข่งขันกอล์ฟนั้นคือ ความที่อะไรสามารถก็เกิดขึ้นได้ สถานการณ์การลุ้นแชมป์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดระยะเวลา 4 วันของการแข่งขัน อย่างไรแล้วก็อย่าลืมที่จะมาร่วมเชียร์นักกอล์ฟสาวไทยของเรา ในการแข่งขันระหว่างวันที่ 6-9 พ.ค.นี้ โดยที่จะมีการถ่ายทอดสดทาง PPTV อีกด้วย

นอกจากนี้อย่าลืมมาร่วมสนุกกับ HotGolf ผ่านกิจกรรมทางเฟซบุ๊ก ลุ้นรับของที่ระลึกจากการแข่งขัน โดยสามารถติดตามรายละเอียดการร่วมสนุกได้ที่คลิก https://bit.ly/3e3va73