5 สิ่งที่ควรรู้ของชุดเหล็ก Titleist T-Series รุ่นใหม่

เปิดตัวเผยโฉม และเตรียมวางขายในวันที่ 25 สิงหาคมนี้แล้ว สำหรับชุดตระกูลชุดเหล็ก Titleist T-Series รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ครองอันดับ 1 เป็นเหล็กที่ถูกเลือกใช้โดยนักกอล์ฟชั้นนำระดับโลกในพีจีเอทัวร์ มาตลอด 18 จาก 19 ฤดูกาลล่าสุด

จากความสำเร็จที่สามาถเอาชนะใจนักกอล์ฟระดับทัวร์ Titleist ได้นำความสำเร็จนั้นมาต่อยอดสู่ T-Series ด้วยการสร้างเหล็กที่มีประสิทธิภาพครบทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสามด้านสำคัญ นั่นคือ การควบคุมระยะทาง การให้ความแม่นยำสูง และการให้มุมที่ลูกกอล์ฟตกลงพื้นอย่างเหมาะสม

ไปทำความรู้จักเหล็กซีรี่ส์ใหม่นี้ให้ดียิ่งขึ้น กับ 5 สิ่งที่คุณควรรู้ของ Titleist T-Series รุ่นใหม่ล่าสุดนี้…

————————–

เปิดตัวมาให้เลือกมากถึง 4 โมเดล
ครั้งนี้้เป็นอีกครั้งที่ Titleist เปิดตัวซีรี่ส์ชุดเหล็กใหม่ออกมาพร้อมกันถึง 4 โมเดล ประกอบด้วย T100, T150, T200 และ T350
ทุกรุ่นมีแคเรกเตอร์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เพื่อนักกอล์ฟแต่ละประเภทที่แตกต่างกัน T100 เป็นเหล็กทัวร์สมัยใหม่ เหมาะกับนักกอล์ฟมือดีที่ต้องการการควบคุมทิศทางที่แม่นยำ มีความสม่ำเสมอในทุกด้าน และความรู้สึกหนักแน่นในการปะทะลูก, T150 เป็นเหล็กทัวร์สำหรับนักกอล์ฟมือดีเช่นเดียวกับ T100 แต่มาพร้อมกับคุณสมบัติความเร็วที่สูงกว่า
T200
T200 เป็นเหล็กตีไกล ในขณะที่ยังรักษาหน้าตาและรูปทรงที่ปราดเปรียว กะทัดรัด และสะอาดตา ส่วน T350 เป็นเหล็กสำหรับนักกอล์ฟกำลังพัฒนาฝีมือ ที่ให้คุณสมบัติตัวช่วยในทุกด้าน ทั้งมุมเหิน ระยะทาง การชดเชยความผิดพลาด และความแม่นยำ แต่ในรูปลักษณ์แบบใหม่ พร้อมความนุ่มนวลในการตีจากการเป็นเหล็กฟอร์จ

————————–

T100 และ T150 ความเหมือนที่แตกต่าง
ระหว่างเหล็ก T100 และ T150 นั้นมีความใกล้เคียงกัน ทั้งสองรุ่นเป็นเหล็กแบบทัวร์ ที่ขึ้นรูปจากดีไซน์โครงสร้างแบบเดียวกัน ความยาวของใบเท่ากัน
ที่ต่างกันคือ สันใบของ T150 จะมีความหนากว่าเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักกอล์ฟ พร้อมด้วยองศาหน้าไม้ที่ชันกว่า 2 องศา เพื่อช่วยให้สามารถสร้างความเร็วได้สูงกว่า และระยะทางที่ไกลกว่า เหมาะกับนักกอล์ฟมือดีที่ต้องการเพิ่มระยะในการตีเหล็ก แต่ขณะเดียวกันก็ยังต้องการรูปลักษณ์ของใบเหล็กที่มีความกะทัดรัดแบบเหล็กทัวร์

————————–

T200 ยกเครื่องภายในใหม่ทั้งหมด
T200 เป็นเหล็กรุ่นที่ได้รับนิยมมากของ T-Series ด้วยประสิทธิภาพรอบด้าน โดยเฉพาะการสร้างระยะได้ไกล แต่มาในรูปลักษณ์ใบที่ขนาดกะทัดรัด ในรุ่นใหม่ยังคงมาพร้อมคอนเซ็ปต์แบบเดิม แต่ด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้น จากการพัฒนาโครงสร้างภายในขึ้นใหม่เกือบทั้งหมด
โครงสร้างภายในของ T200 ถูกปรับแต่งให้มีความแน่นขึ้น เสริมด้วยเทคโนโลยี Max Impact ซึ่งเป็นวัสดุยางที่อยู่ภายในบริเวณหลังใบ ได้ถูกปรับแต่งใหม่ พร้อมหน้าเหล็กแบบ dual-taper ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ ทั้งหมดนี้ทำให้ T200 มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และให้ความรู้สึกในการตีที่มีความหนักแน่นขึ้นไปพร้อมกัน

————————–

T350 ครั้งแรกของการฟอร์จในเหล็กแบบ Game Improvement
ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่โมเดลเหล็กแบบ Game Improvement ของ Titleist อย่าง T350 จะมาในหน้าเหล็กแบบฟอร์จ เพื่อให้นักกอล์ฟที่ต้องการพัฒนาฝีมือ สามารถซึบซับความนุ่มและแน่นในการตีเหล็ก แบบเดียวกันกับที่นักกอล์ฟในทัวร์ได้รับ
T350 ที่เป็นการต่อยอดมาจาก T300 แต่ที่จริงแล้วในรุ่นใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่น T200 เต็มๆ ด้วยโครงสร้างและรูปลักษณ์แบบเบลด ที่มีโพรงภายใน แต่ในเวอร์ชั่นที่ใหญ่และหนา เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักกอล์ฟ
สำหรับ T350 ยังคงได้รับพลังมาจากเทคโนโลยี Max Impact กับหน้าเหล็ก dual-taper เช่นเดียวกัน เพื่อพลังในการสร้างความเร็วลูก และการชดเชยความผิดพลาดจากการตีไม่โดนกลางหน้าไม้

————————–

ทุกรุ่นราคาเท่ากัน
ไลน์เหล็ก T-Series ทั้ง T100, T150, T200 และ T350 ถูกออกแบบให้หน้าตารูปลักษณ์ที่มีความใกล้เคียง นั่นก็เพื่อการจัดเซ็ตแบบคัสตอม ให้ในเซ็ตสามารถใช้เหล็กต่างโมเดลนำมาผสมกันได้อย่างลงตัว
ที่สำคัญคือ ด้วยการที่ตอนนี้ทั้ง 4 โมเดลเป็นเหล็กฟอร์จทั้งหมด ทำให้ทุกโมเดลย่อยจะมีราคาที่เท่ากันทั้งหมด ไม่ว่า T100, T150, T200 และ T350 ทั้งหมดจะมีราคาขายสำหรับก้านเหล็กอยู่ที่ 7,000 บาทต่อชิ้น (เซ็ต 5-P ราคา 30,000 บาท) ดังนั้นจึงไม่เป็นปัญหาเลยว่า คุณเลือกจะรุ่นไหน หรือเลือกจัดเซ็ตแบบใด เพราะราคาจะไม่ถูกนำมาเป็นปัจจัยใดๆ เพื่อให้คุณสามารถเลือกจัดเซ็ตกับคุณได้เหมาะสมอย่างที่สุด!

————————–

นักกอล์ฟที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมของ Titleist T-Series ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.titleist.in.th/t-series-irons หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.097-221-8141

————————–

**สั่งซื้อสินค้ากอล์ฟออนไลน์จากทุกแบรนด์ชั้นนำ ผ่าน HotGolf Shop สอบถามสินค้าได้ที่คลิก https://line.me/R/ti/p/%40hotgolf

#HotGolf #Titleist #TSeries