“โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล…”ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับแชมป์ เพราะจีนมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้น”

ภาพ Jirawat Srikong/Sports Aperture

เป็นดาวรุ่งที่กำลังมาแรงมาก และทุกคนให้การจับตามองเป็นพิเศษ ในฐานะดาวดวงใหม่ของวงการกอล์ฟไทย สำหรับ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล สาวน้อยมหัศจรรย์วัยเพียง 17 ปี ที่สร้างปรากฎการณ์ให้กับวงการกอล์ฟอาชีพสตรีไทย เมื่อกวาดแชมป์ถึง 4 รายการ ทั้งที่เพิ่งเทิร์นโปรลงแข่งขันเพียงปีแรกเท่านั้น

HotGolf มีโอกาสได้พูดคุยสัมภาษณ์กับสาวน้อย อาฒยา กับผลงานในช่วงปีที่ผ่านมาว่า เธอพอใจมากน้อยแค่ไหน และอะไรคือปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ช่วยให้เธอประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม “โปรจีน” ยืนยันกับเราว่า ถึงตอนนี้เธอยังไม่ได้คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จ เนื่องจากยังมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่ากับการแข่งขันแอลพีจีเอทัวร์ที่รออยู่ข้างหน้า

ภาพ Jirawat Srikong/Sports Aperture

HG: พอใจกับผลงานในปีแรกที่เทิร์นโปรมากน้อยแค่ไหน
อาฒยา: ถ้าพูดถึงผลงานค่อนข้างพอใจค่ะ แต่ว่าจริงๆ แล้วจีนมองว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเป็นแชมป์ หรือไม่ได้เป็นแชมป์แล้วจะพอใจ เพราะจีนค่อนข้างให้ความสำคัญกับพัฒนาการในการเล่น ตามที่ได้มีการทำงานฝึกซ้อมมามากกว่า ไม่ว่าจะเป็นลูกสั้นที่ดีขึ้น หรือระยะที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ จีนให้ความสำคัญกับส่วนนี้มากกว่าค่ะ

HG: ผลงานเป็นไปตามเป้าหมายที่เราตั้งเป้าเอาไว้อย่างไรบ้าง
อาฒยา: จริงๆ จีนไม่ได้มองว่าความสำเร็จขึ้นอยู่กับจำนวนแชมป์ว่าจะต้องได้กี่แชมป์ถึงจะพอใจ เพราะเหมือนกับที่หลายๆ คนพูดกันว่า ไทยแอลพีจีเอทัวร์ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายสำหรับจีน แต่เราใช้ทัวร์นี้สำหรับการพัฒนา และเป็นใบส่งต่อสำหรับเป้าหมายต่อไปมากกว่า แต่แน่นอนว่านี่คือประสบการณ์ที่ดีกับการได้ลงไปแข่งขันในสนามแข่งขันจริง

HG: แปลกใจตัวเองไหมที่ประสบความสำเร็จเร็วขนาดนี้
อาฒยา: จริงๆ จีนคิดว่ายังบอกไม่ได้ว่าตอนนี้ตัวเองประสบความสำเร็จแล้ว เพราะอย่างที่บอกแล้วว่า ไทยแอลพีจีเอทัวร์ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายสำหรับจีน เพราะเรายังมีเป้าหมายที่เหนือไปจากนี้ แต่ถ้าถามว่าแปลกใจไหมที่ได้แชมป์มากถึง 4 รายการทั้งที่เพิ่งแข่งขันเป็นปีแรก จีนคิดว่าตัวเองทำงานมาหนักมากพอที่สมควรจะได้รับมัน อย่างเช่นตอนล็อกดาวน์ช่วงโควิด-19 ถึงแม้สนามกอล์ฟจะปิด แต่จีนก็ยังทำงานหนักกับเกมของตัวเองอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการออกกำลังกายที่จีนออกกำลังกายสัปดาห์ละ 6 วัน ไม่ได้หยุดพักการพัฒนาตัวเองเลยแม้จะเป็นช่วงที่มีอุปสรรคก็ตาม

ภาพ Jirawat Srikong/Sports Aperture

HG: คิดว่าอะไรคือปัจจัยสำคัญที่สุดในการคว้าแชมป์
อาฒยา: จีนคิดว่าสิ่งที่สำคัญคือ การที่จีนสามารถรักษาความเสถียรได้ดีมาก เพราะตัวจีนเองคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ซ้อมหนักมากๆ แม้แต่โค้ชยังบอกให้พักบ้าง (หัวเราะ) รวมถึงอีกสิ่งสำคัญคือ การที่สามารถรักษาพละกำลังเอาไว้ได้ เพราะถึงแม้ตอนแข่งจีนก็ยังออกกำลังกายอยู่ตลอด

HG: มีอะไรที่ยังอยากพัฒนาหลังจากนี้
อาฒยา: ยังมีอีกหลายอย่างเลยค่ะ เพราะจีนรู้สึกว่าเมื่อเราตื่นมาโลกก็พัฒนาไปทุกวัน เราเองก็ต้องพัฒนาตาม และในสนามไม่ได้มีแค่เรา ทุกคนเองพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด มันมีอีกหลายอย่างที่เราต้องพยายามเอาชนะให้ได้ อย่างเช่น สนามที่เราไม่เคยลงแข่งมาก่อนเป็นต้น ส่วนเรื่องเกมยังมีอีกหลายจุดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคบางจุดที่เรายังทำไม่ได้สม่ำเสมอมากพอ หรือเรื่องเกมลูกสั้นที่เรายังต้องพัฒนาต่อไปอีก

HG: แชมป์ไหนที่ประทับใจที่สุด
อาฒยา: คิดว่าเป็นแชมป์แรก (สิงห์-เอสเอที ไทยแอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 2020 ที่สนามกอล์ฟกบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ) เพราะที่สำคัญที่สุดคือมันเป็นแชมป์แรก รวมถึงก่อนหน้าที่จะได้แชมป์ ตัวจีนเองเล่นไม่ดีเลย บางแมตช์หลุดไม่ติดท็อป 30 ด้วยซ้ำ หลังจากนั้นจึงซ้อมหนักมาก และในที่สุดผลของการที่ทำงานหนักมา มันก็ช่วยให้จีนได้แชมป์จริงๆ

HG: ตั้งเป้าหมายกับการแข่งขันแอลพีจีเอทัวร์ไว้อย่างไร
อาฒยา: จริงๆ แล้วที่ตอนนี้จีนยังไม่ได้ไปที่แอลพีจีเอ คือ จีนยังติดเรื่องอายุ เนื่องจากแอลพีจีเอมีกฎว่านักกอล์ฟที่จะควอลิฟายได้จะต้องมีอายุ 18 ปีแล้วขึ้นไปเท่านั้น โดยจีนจะอายุครบ 18 ปีภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 นี้ จากนั้นปลายปีหน้าถึงจะไปควอลิฟายได้ ดังนั้นจึงต้องรอลุ้นการควอลิฟายในช่วงปลายปีหน้าอีกครั้ง

ภาพ Jirawat Srikong/Sports Aperture

HG: มีการปรึกษารุ่นพี่ที่เล่นในแอลพีจีเอทัวร์อยู่แล้วอย่างไรบ้าง
อาฒยา: มีค่ะ เพราะจีนมีพี่โม (โมรียา จุฑานุกาล), พี่เม (เอรียา จุฑานุกาล) และ พี่เมียว (ปาจรีย์ อนันต์นฤการ) ที่อยู่ใน SCG ด้วยกัน และเจอกันค่อนข้างบ่อย โดยเฉพาะกับพี่เมียวที่เราสนิทกันเป็นพิเศษ ไปไหนมาไหนด้วยกันตั้งแต่อยู่ที่ไทยแล้ว จีนเองปรึกษาพวกพี่ๆ อยู่ตลอด รวมถึงเป็นกำลังใจให้กันและกันเสมอ เพราะต้องยอมรับว่าการแข่งขันแอลพีจีเอทัวร์ไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งเป็นการต้องไปอยู่ที่ต่างประเทศยาวๆ ที่เราไม่คุ้นชินด้วย ซึ่งพี่ๆ ก็ให้คำแนะนำกับจีนเป็นอย่างดี

HG: คิดว่าอะไรคือจุดที่ต้องพัฒนาถ้าอย่างประสบความสำเร็จในแอลพีจีเอทัวร์
อาฒยา: จริงๆ ก็คล้ายกับที่จีนบอกไปตอนแรกว่า มีบางเทคนิค หรือการเล่นลูกสั้นที่ยังต้องพัฒนาต่อ เพราะว่าถ้าบางวันที่เราเล่นได้ไม่ดี ถ้าลูกสั้นเราดีมันจะยังช่วยประคองสกอร์ของเราไว้ได้ รวมถึงอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ต้องพัฒนาคือ เรื่องของระยะ ที่ถึงแม้ตอนนี้จีนเองจะพอใจกับระยะที่ทำได้ แต่ต้องยอมรับว่าถ้าตีได้ไกลขึ้น ก็จะช่วยให้เล่นสบายขึ้น อย่างตอนนี้ที่จีนไดร์ฟอยู่ที่ประมาณ 250-260 หลา ก็อยากจะขยับไปให้ถึง 270 หลา แต่ด้วยอายุของจีนที่ยังน้อยอยู่ จากการปรึกษาเทรนเนอร์ก็เชื่อว่าถ้าจีนอายุมากขึ้นกว่านี้ กล้ามเนื้อแข็งแรงกว่านี้ ก็น่าจะอัดไปถึง 270 หลาได้

HG: ฝากถึงแฟนกอล์ฟชาวไทยที่รอติดตามผลงาน
อาฒยา: ปีนี้ต้องยอมรับว่าเป็นปีที่เราไม่ได้เชียร์กอล์ฟกันมากเท่าที่ควร เนื่องจากติดสถานการณ์ของโควิด-19 แต่ปีหน้าเชื่อว่าน่าจะดีขึ้น และนักกอล์ฟไทยก็น่าจะมีโอกาสได้ออกไปแข่งที่ต่างประเทศกันมากขึ้น จีนจึงอยากฝากแฟนกอล์ฟชาวไทยให้ช่วยเป็นกำลังใจให้เราด้วย พวกเราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อประเทศไทยของเรานะคะ