รีวิวสนามกอล์ฟ : ฟลอร่าวิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ

แม้ใช้ชื่อสนามเดิมมานานกว่า 20 ปี แต่เชื่อว่านักกอล์ฟหลายคนน่าจะจดจำชื่อและภาพลักษณ์ใหม่ในฐานะเป็น “ฟลอร่าวิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ” ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชนิดที่แทบจะลบภาพเดิมสมัยเป็นชวนชื่นกอล์ฟคลับไปทั้งหมด ด้วยสนามกอล์ฟที่ดูมีความเป็นสมัยใหม่ โดดเด่นด้วยคลับเฮ้าส์ที่ใช้ทำใหม่ด้วยเม็ดเงินลงทุนถึง 160 ล้านบาท จนได้คลับเฮ้าส์ที่ดูทันสมัย สะดวกสบายขึ้นมาก ขณะเดียวกันก็เรียบง่ายสวยงาม ผมเชื่อว่าถึงตอนนี้สนามกอล์ฟฟลอร่าวิลล์เป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสนามหนึ่งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ดูได้จากจำนวนการปิดสนามแข่งขัน และยอดนักกอล์ฟที่มาใช้บริการในแต่ละวัน ต้องขอชมเชยเลยว่าเป็นสนามที่สนามอื่นๆ ควรดูเป็นแบบอย่าง แม้จะเป็นสนามกอล์ฟเก่าแก่แต่ก็สามารถยกระดับให้กลับมาเป็นสนามยอดนิยมได้อีกครั้ง

Golf Course Information
ชื่อสนาม : ฟลอร่าวิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรีคลับ
ขนาด : 18 หลุม พาร์ 72 ระยะ : 6,728 หลา
ที่อยู่ : 110,110/1-2 หมู่ 8 ถนนกรุงเทพ-ปทุมธานี, ต.บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี 12000
โทรศัพท์ : 02 598 2839, 02 598 2699
เว็บไซต์ : www.floragolfcourse.com
อีเมล : [email protected]

Course condition and layout
หลังจากการปรับชื่อปรับโฉมใหม่ ในส่วนเลย์เอ้าท์ของสนามฟลอร่าวิลล์ก็มีการปรับปรุงบ้างส่วนบ้างเช่นกัน แต่โดยรวมแล้วยังคงรักษาเสน่ห์และเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมเอาไว้ ที่นี่บรรยากาศการเล่นจะเน้นคอนเซ็ปต์เป็น “Executive Golf” ที่ให้ความผ่อนคลาย แต่แฝงไว้ด้วยความท้าทายตามแบบฉบับของชวนชื่นเดิม ไม่ว่าจะอุปสรรคน้ำรอบข้างที่บีบในหลายหลุม, แฟร์เวย์ที่แคบ ไปจนถึงกรีนที่เล็ก รวมถึงหลายหลุมเป็นหลังเต่า ทำให้ออนไม่ง่าย รวมถึงหนึ่งจุดที่พัฒนาขึ้นมาเลยคือ คอนดิชั่นความสมบูรณ์ของสนามที่ก็ถูกยกระดับขึ้นมาตาม Facility ด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนี้ควรค่าอย่างยิ่งครับว่าทำไมคุณถึงควรมาสัมผัสโฉมใหม่ของสนามแห่งนี้

Signature Hole
#18 Par 5 Hcp.8 Dist.550/515/475/423 yards.
หลุมซิกเนเจอร์ของสนามฟลอร่าวิลล์คือ หลุมจบหลุม 18 เป็นพาร์ 5 ที่เลย์เอ้าท์ค่อนข้างคดเคี้ยวท้าทายทีเดียว จากช็อตไดร์ฟจะมีจุดวางตัวที่ถูกบีบด้วยน้ำ, บังเกอร์ และแนวต้นไม้ด้านขวา ทำให้ต้องเน้นเบียดซ้ายไว้ก่อนครับ แต่ต้องไม่ซ้ายมากจนเกินไป เผื่อให้ช็อตสองมีมุมกว้างและสามารถเลือกเล่นตำแหน่งวางตัวได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวางตัวหน้าน้ำ หรือวางตัวทางแฟร์เวย์ เพื่อแอพโพรชข้ามน้ำในจุดที่เสี่ยงน้อยลง เรียกว่าสำคัญตั้งแต่ช็อตแรกและช็อตสอง รวมถึงช็อตที่สามที่กรีนจะอยู่ติดขอบน้ำ และสโลปด้านหน้าเทลงน้ำด้วย ถ้าสั้นหรือเผื่อมาไม่พอมีโอกาสตกน้ำสูง เช่นเดียวกับด้านข้างก็จะมีบังเกอร์ดักทั้งซ้ายขวา ถือเป็นหลุมจบที่ท้าทายมาก เรียกว่าต้องเน้นต้องละเอียดทุกช็อตเลยครับ

Recommended Hole
#9 Par 5 Hcp.7 Dist.504/478/426/402 yards.
หลุมแนะนำเราเลือกกันเป็นหลุม 9 หลุมจบของฝั่งแรกที่แต่เดิมเป็นพาร์ 4 ยาว ก่อนปรับใหม่ให้เป็นพาร์ 5 สั้น แต่ก็ไม่ได้บุกกันง่ายเลยเสียทีเดียว เพราะหลุมนี้จะมีน้ำขนาบซ้ายไปตลอดทาง รวมถึงเข้ามากดดันตั้งแต่ช็อตไดร์ฟ แต่ถือว่ายังแฟร์กับผู้เล่น เมื่อจากหมุดขาวจะไดร์ฟข้ามน้ำที่ระยะ 180 หลาเท่านั้น และจุดตกมีพื้นที่ให้วางตัวค่อนข้างกว้าง แต่จากนั้นจะเริ่มท้าทายขึ้นด้วยน้ำซ้ายที่เว้าบีบเข้ามา ทำให้พื้นที่เล่นลดลง รวมถึงบริเวณหน้ากรีนจะมีบังเกอร์ดักอยู่หลายบ่อทีเดียวจนบุกได้ไม่ถนัดนัก หลุมนี้กรีนค่อนข้างใหญ่ แต่มีหลายสโลป ทำให้ถ้าวางตัวตำแหน่งไม่ดีจะพัตต์ยากพอสมควร ก่อนขึ้นกรีนอย่าลืมปรึกษาแคดดี้ครับว่า วางตัวจุดไหนจะพัตต์ได้สะดวกที่สุด ไม่งั้นเจองานยากแน่นอน

Signature Dish
สำหรับเมนูเด็ดบนคลับเฮ้าส์ ครั้งนี้ทางสนามนำเสนอเป็นเมนูอาหารไทยที่ทานสะดวกก่อนออกรอบ อาทิ ข้าวผัดหมูโบราณ ที่ผัดมาเข้มข้นและแห้งกำลังดี ใส่เครื่องมาแบบครบสูตร นอกจากนี้ยังเมนูกับข้าวอย่าง ผัดกะหล่ำปลีวุ้นเส้นเบคอน อีกหนึ่งเมนูทานง่ายที่ทำได้ดีและอร่อยมาก แถมที่ไม่หนักท้องจนเกินไป หรือจะเอาเมนูหลักเลยก็นำเสนอเป็นปลากะพงลุยสวน ปลาหั่นชิ้นมาพอดีคำ ทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน ทานคู่น้ำราดและผักสลัดเข้ากัน ยิ่งทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งเยี่ยมเลยครับ