ตามหาลูกกอล์ฟ Non-Conform รุ่นไหนไกลรุ่นไหนเก่ง!

เชื่อว่านักกอล์ฟชาวไทยหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า “Non-Conform” หรือการเกินค่ากำหนดกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในส่วนของไดรเวอร์รุ่นพรีเมี่ยมต่างๆ ที่เราเรียกกันว่า “หัวไม้หน้าเด้ง” แต่ที่จริงไม่ใช่แค่แต่เฉพาะไดรเวอร์เท่านั้นที่มีอุปกรณ์เกินค่ากำหนดแบบนี้ เมื่อจริงๆ แล้วในส่วนของลูกกอล์ฟก็มีรุ่น Non-Conform อยู่ด้วยเช่นกัน

ตามกฎของ USGA และ R&A ได้ระบุไว้ว่า ลูกกอล์ฟที่ถูกต้องตามกฎนั้นจะต้องห้ามมีขนาดเล็กเกินกว่า 1.68 นิ้ว (42.67 มิลลิเมตร) และห้ามมีน้ำหนักเกินกว่า 1.26 ออนซ์ (45.93 กรัม) รวมถึงค่า coefficient of restitution หรือ COR นั้นห้ามเกินในระดับที่กำหนดไว้เท่ากับไดรเวอร์ นั่นคือ ห้ามเกินกว่า 0.830

อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบโจทย์ให้นักกอล์ฟสามารถเล่นกอล์ฟได้สนุกขึ้น หลายแบรนด์ได้คิดค้นลูกกอล์ฟที่มีเกินค่ากำหนดดังกล่าว เพื่อช่วยให้นักกอล์ฟเล่นกอล์ฟได้ดีขึ้น โดยเฉพาะปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องของระยะทาง ทำให้นักกอล์ฟยังสามารถตีไกลได้ แม้สวิงสปีดไม่สูงมากก็ตาม

ถ้าคุณกำลังมองหาลูกกอล์ฟแบบนี้อยู่ ถ้าคุณอยากตีไกลโดยไม่ใช้แรงมากจนเกินไป ครั้งนี้ HotGolf ได้คัดสรรลูกกอล์ฟ Non-Conform รุ่นเด่นในตลาดตอนนี้มานำเสนอกัน ลองพิจารณากันดูครับว่า รุ่นไหนคือรุ่นที่คุณสมบัติถูกใจคุณมากที่สุด

PRGR SUPER egg
ลูกกอล์ฟ SUPER egg จาก PRGR เป็นรุ่นที่ทำมาคู่กับซีรี่ส์ SUPER egg ที่เน้นอุปกรณ์ประเภท Non-Conform ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทผู้นำเข้าคือ บริษัท กอล์ฟเทรนด์ เอเชีย จำกัด ซึ่งตามคุณสมบัติมีการเคลมว่า สามารถตีได้ไกลขึ้นราว 20 หลา จากค่า COR ที่ 0.840 ด้วยจุดเด่นคือการออกแบบแกนกลางที่ใหญ่เป็นพิเศษ เสริมด้วยเปลือก Ionomer ทำให้ได้แรงดีดที่สูง และลูกง่ายยิ่งขึ้น
PRGR เผยว่า นักกอล์ฟที่เหมาะจะใช้รุ่นนี้ไม่ควรมีคลับเฮดสปีดต่ำกว่า 37 m/s เพื่อที่จะสามารถรีดประสิทธิภาพจากลูกกอล์ฟออกมาได้มากที่สุด
ราคาขาย : 2,200 บาท

Work Golf Red Label
Work Golf Red Label เป็นอีกหนึ่งรุ่นลูกกอล์ฟแบบ Non-Conform แบบ HI-COR ที่ทางกอล์ฟเทรนด์นำเข้ามาขายในเมืองไทย โดยจุดเด่นคือ แคเรกเตอร์ที่แตกต่างจากรุ่น PRGR SUPER egg เนื่องจากรุ่นนี้จะเหมาะสมกับนักกอล์ฟที่มีค่าคลับเฮดสปีดต่ำกว่า 37 m/s จะใช้ประโยชน์จากลูกกอล์ฟรุ่นนี้มากที่สุด
Red Label โดยแบรนด์ Work Golf มีจุดเด่นอยู่ที่การมีค่า COR สูงถึง 0.843 จึงทำให้สามารถใช้ได้ดีกับนักกอล์ฟที่คลับเฮดสปีดไม่สูงได้ดี นอกจากนี้ยังมาพร้อมคุณสมบัติแกนในใหญ่ และมีน้ำหนักเบากว่าลูกกอล์ฟปกติเล็กน้อย ทำให้ตีลูกลอยได้ง่ายในทั้งไดรเวอร์, หัวไม้แฟร์เวย์ และไฮบริด และสร้างระยะทางได้มากอีกขึ้นด้วย
ราคาขาย : 2,100 บาท

Kasco Zeus Impact Golf Ball
ลูกกอล์ฟ Zeus Impact ถือเป็นหนึ่งในรุ่นชูโรงของแบรนด์ Kasco ในเวลานี้ เนื่องจากทำออกมาคู่กันกับไดรเวอร์โมเดลเรือธงที่ใช้ชื่อว่า Zeus Impact เช่นกัน เพื่อให้ใช้งานคู่กันและได้ประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีการเปิดเผยว่าถ้าใช้คู่กันแล้วจะตีได้ระยะทางเพิ่มรวมแล้วถึง 43.2 หลาเลยทีเดียว
Zeus impact เป็นลูกกอล์ฟแบบ Non-Conform โครงสร้าง 3 ชั้น ที่ยกระดับขึ้นมาจากลูกกอล์ฟแบบ non-conform ทั่วไป ด้วยการใช้แกนกลางแบบ Dual core เพื่อให้มีค่า COR เกินกฎสูงไปถึง 0.840 เสริมด้วยการดีไซน์ที่มีขนาดเล็กกว่าปกติที่ 42 มิลลิเมตร ทำให้ลดแรงต้านอากาศลงได้ 2% ช่วยให้ตีลูกแหวกอากาศได้ดียิ่งขึ้น จึงทำให้ระยะทางเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีการเปิดเผยว่านอกจากระยะที่เพิ่มขึ้นแล้ว ลูกกอล์ฟที่มีขนาดเล็กกว่าปกตินี้ยังจะช่วยให้นักกอล์ฟสามารถพัตต์ลงหลุมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ราคาขาย : 1,760 บาท

Kasco HC-801
ทิ้งท้ายกันที่อีกหนึ่งรุ่นจาก Kasco กับรุ่น HC-801 เป็นลูกกอล์ฟ 2 ชั้น ที่มีคุณสมบัติเป็นลูกกอล์ฟ High COR ทำให้ตีไกลเป็นพิเศษ โดยต่างจากรุ่น Zeus Impact ตรงที่เป็นขนาดปกติ อย่างไรก็ตามลูกกอล์ฟนี้จะสามารถสร้างประสิทธิภาพได้ระยะเพิ่มขึ้นแบบเห็นได้ชัดเมื่อใช้คู่กับไม้หน้าเด้งด้วย โดยจะยิ่งทำให้ได้ระยะทางที่ไกลยิ่งกว่าเดิม
และที่พิเศษเลยของรุ่นนี้คือ ตอนนี้ทาง Kasco กำลังจัดโปรโมชั่นพิเศษอยู่ด้วยคือ ซื้อ 1 โหลในราคาโหลละ 1,200 บาท แถมให้อีก 1 โหลด้วย
ราคาขาย : 1,200 บาท (มีโปรซื้อ 1 แถม 1)

**สมัคร HotGolf Member ฟรี! รับข่าวสารเรื่องเด่นและน่าสนใจส่งตรงถึงอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ พร้อมสิทธิประโยชน์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น กรอกข้อมูลได้ที่คลิก http://wow.in.th/aHfN