“คอร์ด้า VS โค” ศึกชิงตำแหน่งผู้เล่นแห่งปี

กำลังจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้แล้ว สำหรับกอล์ฟรายการส่งท้ายฤดูกาลของแอลพีจีเอทัวร์ ในศึกซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ แข่งขันกันระหว่างวันที่ 15-18 พ.ย. ณ สนามกอล์ฟทิบูรอน กอล์ฟคลับ ในเมืองเนเปิ้ลส์ รัฐฟลอริด้า

รายการนี้คัดเฉพาะมือท็อป 60 ของตารางคะแนนสะสม เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ เข้าร่วมแข่งขัน หลังจากกรำศึกหนักกันมาตลอดทั้งปีที่ผ่านมา และไฮไลท์คือการมีเงินรางวัลให้ชิงชัยสูงถึง 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 160 ล้านบาท แชมป์รับ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 48 ล้านบาท มากที่สุดของการแข่งขันกอล์ฟหญิง

นักกอล์ฟสาวไทยเราคว้าสิทธิ์ได้เข้าร่วมแข่งขันมากถึง 6 คน นำมาโดย “โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ, “โปรเม” เอรียา และ “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล, “โปรจัสมิน” สุวัณณะปุระ, “โปรเมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤการ และ “โปรแจน” วิชาณี มีชัย โดยเฉพาะ เอรียา ที่เคยได้แชมป์รายการนี้มาแล้วเมื่อปี 2017

ในอดีตรายการนี้จะรีเซ็ตแต้มนักกอล์ฟที่เข้าร่วมแข่งขัน ไล่เรียงตามอันดับคะแนนสะสม 1-60 อันดับ 1 มีคะแนนตุนไว้ก่อน 5,000 แต้ม ไล่ไปจนถึงอันดับสุดท้ายอันดับ 60 มี 10 แต้ม ขณะที่ผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับ 3,500 แต้ม ทำให้เมื่อแข่งขันจริงๆ แล้วจะมีนักกอล์ฟเพียง 12 คนเท่านั้นที่ได้สิทธิ์ลุ้นเป็นผู้ชนะรางวัล เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ พร้อมรับเงินโบนัสไปเต็มๆ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

แต่หลังจากปี 2019 การแข่งขันปรับใหม่ให้เท่าเทียมมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟทุกคนทั้ง 60 คนมีสิทธิ์เป็นผู้ชนะ พร้อมกับคว้าเงินรางวัล 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยการรีเซ็ตแต้มเป็นศูนย์ หรือไม่มีคะแนนสะสมอีกแล้ว ทำให้ไม่ว่าอันดับ 1 หรืออันดับ 60 เป็นผู้ชนะการแข่งขัน เธอคนนั้นจะได้รับเงินรางวัลโบนัสก้อนโตนี้ทันที

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องจับตามามองคือ การขับเคี่ยวกันของสองนักกอล์ฟที่เล่นได้อย่างสุดยอดตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ระหว่าง “เนลลี่ คอร์ด้า” และ “โค จิน-ยอง”

นี่คือสองนักกอล์ฟที่โดดเด่นที่สุดอย่างแท้จริง พิสูจน์ด้วยตำแหน่งแชมป์แอลพีจีเอทัวร์คนละ 4 รายการเท่ากัน แต่คอร์ด้าผู้น้องเหนือกว่าเล็กน้อย เมื่อแชมป์ที่ทำได้มีแชมป์เมเจอร์ วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ด้วยหนึ่งรายการ รวมถึงการคว้าเหรียญทองกอล์ฟหญิง ที่โอลิมปิกเกมส์มาอีกด้วย

คอร์ด้า และ โค เป็นนักกอล์ฟเพียงสองคนที่ตอนนี้ยังมีสิทธิ์ลุ้นตำแหน่งผู้เล่นแห่งปี หรือ Rolex Player of the Year ซึ่งต่างกันกับของฝั่งพีจีเอทัวร์ที่ให้นักกอล์ฟโหวตเลือกกันเอง แต่แอลพีจีเอทัวร์จะตัดสินกันจากระบบคะแนนสะสม โดยปัจจุบัน คอร์ด้า มีอยู่ 191 แต้ม ขณะที่ โค มีอยู่ 181 แต้ม

ผู้ชนะรายการซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ จะได้รับคะแนนสะสม 30 แต้ม ทำให้โอกาสยังคงเปิดกว้างระหว่างทั้งคู่ แน่นอนว่าถ้าใครชนะรายการนี้ก็จะการันตีรางวัลดังกล่าวทันที หรือ โค ที่แม้ได้รองแชมป์ ซึ่งจะได้คะแนนสะสม 12 แต้ม ก็ยังมีโอกาสคว้ารางวัล ถ้าหาก คอร์ด้า ได้อันดับ 10 ที่จะได้เพียงแต้มเดียว หรืออันดับหลุดเกินท็อป 10 ที่จะไม่ได้แต้มเลย

ส่วนอันดับ 3 ในตารางคะแนนสะสมคือ ปภังกร ของเรานั่นเอง ที่ปัจจุบันมีอยู่ 126 แต้ม ทำให้ไล่ไม่ทันแน่นอนแล้ว

คอร์ด้า ให้สัมภาษณ์ว่า “มันเหลือเชื่อมากๆ นะ ฉันเคยร่วมแข่งขันรายการนี้มาแล้วหลายครั้ง และมันดูเหมือนเป็นรางวัลที่ห่างไกลจากตัวฉันมาก มีนักกอล์ฟหลายคนที่เล่นได้ยอดเยี่ยม ฉันจึงรู้ดีว่าตัวเองต้องเล่นให้ดีมากๆ ถึงจะมีโอกาส ดังนั้นการที่ได้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลในครั้งนี้ มันจึงบ่งบอกถึงผลงานการเล่นของตัวฉันเองได้เป็นอย่างดี และแสดงให้เห็นแล้วว่าฉันทำงานมาหนักแค่ไหน”

ส่วน โค บอกว่า “แน่นอนว่าฉันอยากได้รางวัลผู้เล่นแห่งปี แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อยากกดดันตัวเองมากเกิน ฉันแค่อยากเล่นในแบบตัวเองสามารถทำได้ตลอดช่วงสองเดือนที่ผ่านมา และถ้าทำได้ ฉันก็มีโอกาส”

น่าเสียดายเพียงอย่างเดียว ที่ทั้งคู่ไม่มีสิทธิ์ลุ้นรางวัล Vare Trophy ในฐานะผู้ที่ทำสกอร์เฉลี่ยต่ำที่สุด ทั้งที่ปัจจุบัน คอร์ด้า รั้งอันดับ 1 นั้นรั้งอันดับ 1 ที่สกอร์เฉลี่ย 68.845 ส่วน โค ตามมาติดๆ ที่อันดับ 2 ด้วยสกอร์เฉลี่ย 69.032 เนื่องจากทั้งคู่เล่นไม่ถึง 70 รอบการแข่งขัน ตามที่เงื่อนไขระบุเอาไว้

แต่เอาเป็นว่าแค่รางวัลผู้เล่นแห่งปี รางวัลเดียว แค่นี้ก็เข้มข้นมากพอแล้วครับ!!

**พูดคุยทุกเรื่องราวเกี่ยวกับกอล์ฟได้ที่กลุ่ม Line OpenChat #HotGolf คลิก https://bit.ly/3zMOZbz