กว่าจะเป็น 18 หลุม ในกีฬากอล์ฟ

ด้วยความที่ว่ากีฬากอล์ฟนั้นถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกที่ในศตวรรษที่ 14 ที่สก๊อตแลนด์ และเรียกได้ว่าเป็นกีฬาที่นิยมจนมาถึงปัจจุบันนี้ นักกอล์ฟหลายๆ คน อาจจะเคยเกิดคำถามขึ้นมาบ้างว่า ทำไม? กีฬากอล์ฟจึงมี 18 หลุม ใน 1 รอบ แล้วก่อนหน้านั้น เคยมีกี่หลุม โดยครั้งนี้เราจะมาพูดคุยกันในเรื่องประวัติความเป็นมาของจำนวนหลุมกอล์ฟกันว่ามี 18 หลุมนั้น มีที่มาอย่างไร

สนาม Old Course กลายเป็น 18 หลุมได้อย่างไร?
ในช่วงแรกๆ ของกีฬากอล์ฟนั้น แต่ละสนามมีจำนวนหลุมต่างกัน และไม่ได้เล่นตามลำดับที่กำหนดไว้เสมอไปโดยในปี ค.ศ. 1764 นักกอล์ฟที่สนาม St. Andrews ตัดสินใจรวมสี่หลุมแรกเป็นสองหลุม เพื่อสร้างให้เป็น 18 หลุมต่อรอบ แม้ว่าสนามจะยังมี 10 หลุมซึ่งมีการเล่นหลุม 8 สองครั้ง ดังนั้นจึงเกิดการเล่นแบบ 18 หลุมเท่ากับ 1 รอบขึ้นมา แม้ว่าจะใช้เวลากว่าร้อยปี ก่อนที่จะมี 18 หลุม และสนามอื่นๆ ก็เริ่มปรับตามมา และในช่วงปลายปี 1851 เมื่อสนาม Prestwick ถูกสร้างขึ้นเพียง 12 หลุม ซึ่งก็ไม่ได้ดูแปลกไปจากเดิม

แม้ว่าบางสโมสรจะเล่นกอล์ฟ 18 หลุม โดยมีรางวัลให้ก็ตามแต่นั่นก็เป็นเหตุบังเอิญเท่านั้น เพราะอย่างเช่นที่ Lanark ระหว่างปี ค.ศ. 1851-1853 เป็นสนามที่มีเพียงหกหลุมแต่เล่นสามครั้ง ซึ่งก็ได้มีการเพิ่มจำนวนหลุมเข้าไปอีกทำให้เป็น 21 หลุมต่อ 1 รอบ เรียกได้ว่ายังคงสร้างความสับสันอยู่ หลังจากสนาม St.Andrews ได้เปลี่ยนมาเป็น 18 หลุม ซึ่งจากการสืบค้นข้อมูลต่างๆ ของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ก็ทำให้เกิดเรื่องดังต่อไปนี้ตามมา

ในปี ค.ศ. 1832 หัวหน้ากลุ่ม Clanronald ได้แนะนำให้ทำสนามแบบกรีนคู่ที่ St.Andrews และในสนาม Old Course ในปี 1836 ก็ได้วาดแปลนสนามโดย William Chalmers แขวนอยู่ในคลับเฮาส์ R&A แสดงให้เห็นว่าในหลุมที่ 5 นั้น มีอยู่ 2 หลุมซึ่งมีกรีนร่วมกับหลุมที่ 13

กฎในปี 1842 Royal & Ancient ได้จัดให้กีฬากอล์ฟใน 1 รอบมี 18 หลุม แม้ว่าสนามจะยังไม่ถึง 18 หลุมก็ตาม ซึ่งกฎนี้ถูกใช้ในปี 1858 และ 1875 ในปี ค.ศ. 1855 Daw Anderson ช่างทำลูกกอล์ฟของ St.Andrews ซึ่งดูแลสนาม Old Course ในปี 1850-1855 ได้สร้างกรีนคู่บนหลุมที่ 7 ตามหลักฐานคำสั่งจากคณะกรรมการ Green Committee R&A เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1855 (หลายประวัติศาสตร์เรียกหลุมนี้ว่าเป็นหลุมที่ 5 ซึ่งอาจเป็นเพราะแผนที่ในปี 1836 และบางแห่งที่ค้นพบก่อนในช่วงก่อนหน้านั้น)

ซึ่งอาจมีการตัดหลุมคู่อื่นๆ ออกและอาจถูกนำมาใช้สลับกันแทนที่จะใช้ภายนอก และภายในเพื่อกระจายการสึกหรอของกรีนซึ่งทำหน้าที่เป็นพื้นที่ทีออฟแทนในช่วงเวลานั้น การทำหลุมคู่นั้นต้องใช้กรีนสองแห่งขนาดใหญ่เพื่อทำให้เป็นสองหลุมพร้อมๆ กัน ซึ่งในปี 1856-1857 Allan Robertson ได้รับเงิน 20 ปอนด์สำหรับการทำ Double Greens (กรีนคู่) โดย R&A ซึ่งสามารถอนุมานได้ว่ามีงานจำนวนมากที่ทำเสร็จแล้ว ซึ่งต้องมีการขยายกรีนให้เพียงพอ เพื่อให้สามารถติดตั้งหลุมทั้งสองหลุมบนสนามทั้งหมด และสามารถใช้งานพร้อมกันได้

งานนี้สันนิษฐานว่าริเริ่มโดย “ไดนามิก” กัปตันทีม R&A เซอร์ ไฮ ลียง เพลย์แฟร์ และได้เข้าร่วมการประชุมในฤดูใบไม้ผลิเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1857 ตามรายงานใน Fifeshire Journal ซึ่งหัวข้อในการประชุมครั้งนั้นได้พูดคุยเกี่ยวกับการเตรียมการเล่นใหม่รวมถึงธงสีต่างๆ เพื่อแยกความแตกต่างของหลุมแต่ละหลุม จึงถือเป็นสนามกอล์ฟ 18 หลุมขึ้น สนามนี้เล่นตามเข็มนาฬิกาในช่วงเวลานั้น แม้ว่าไม่นานหลังจากนั้นจะมีการเล่นสลับกันในทิศทางตามเข็มนาฬิกา และทวนเข็มนาฬิกา เพื่อที่จะป้องกันการสึกหรอของสนาม

สนามอื่นๆ ที่เริ่มปรับเปลี่ยนเป็น 18 หลุมได้อย่างไร?
เรียกได้ว่าเป็นเหมือนการเปลี่ยนทัศนคติของนักกอล์ฟให้การเล่นกอล์ฟ 1 รอบเป็น 18 หลุมเลย และในอีกไม่กี่ปีให้หลังสนามอื่นๆ ก็เริ่มนำเอามาตราฐานนี้ไปปรับใช้ตามสนาม Old course ที่ปรับเป็น 18 หลุม ซึ่งดูเหมือนว่าผู้ขับเคลื่อนหลักของแนวคิดนี้จะมีอิทธิพล และเป็นสมาชิกคนสำคัญของ Royal and Ancient Golf Club ซึ่งเป็นสมาชิกของสนามอื่นด้วย แม้ว่าจะใช้เวลา 25 ปี ถึงจะมีสนามกอล์ฟ 18 แห่งทั่วโลกที่มี 18 หลุมก็ตาม

สนามแห่งที่สามที่มี 18 หลุมนั้นก็คือที่ Dubbieside ใน Fife ในปี 1866 แต่ สโมสร Innerleven Golf Club ตัดสินใจที่จะทิ้งมันไปหลังจากนั้นก็ย้ายไปที่สนามกอล์ฟ Leven แทน ซึ่งอยู่ในสนามเดียวกับ Lundin และได้มีการขยายให้เป็น 18 หลุมในปี 1868 นี่เป็นสนามกอล์ฟ 18 หลุมแห่งที่สาม หากคุณต้องการออกรอบ คุณต้องเล่นทั้งในสนาม Leven และในสนาม Lundin เนื่องจากสนามถูกแบ่งออกครึ่งหนึ่งในปี ค.ศ. 1909

ตั้งแต่ ค.ศ. 1872 การแข่งขันกอล์ฟบริติช โอเพ่น ได้จัดขึ้นทุกปีโดยหมุนเวียนกันที่ Prestwick ที่ St Andrews และที่ Musselburgh ซึ่งมีสปอนเซอร์เป็นทั้งสามสโมสร การแข่งขันครั้งนี้แข่งกันมากกว่า 36 หลุม จึงเป็นการจัดแบบ 3 รอบ โดยจัดที่ Prestwick หนึ่งครั้ง ที่ St Andrews สองครั้งและที่ Musselburgh สี่ครั้ง ซึ่งการแข่งขันก็ได้สร้างการเปรียบเทียบกันทั้ง 3 สนาม ใน 18 หลุม ซึ่งที่ St Andrews ก็เหมาะสมที่สุด

ดังนั้นในปี ค.ศ. 1882 Prestwick จึงได้ขยายสนามเป็น 18 หลุมจากเดิม 12 หลุม ซึ่งเป็นสนามที่ 18 และในปี 1891 เมื่อบริษัท Honourable Company ได้สร้างสนาม Muirfield พวกเขาได้ทำสนามเป็น 18 หลุมในปีแรก ขณะที่พวกเขาสนับสนุนการแข่งขัน The Open การแข่งขันชิงแชมป์ก็ได้ย้ายจาก Musselburgh ไปยัง Muirfield ด้วยความร่วมมือจากสามสโมสรระดับโลกจึงได้ใช้มาตราฐานให้แต่ละสนามมี 18 หลุม สำหรับการแข่งกันกอล์ฟ

ในปี 1919 เมื่อ Royal and Ancient เข้ามาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน The Open เพียงผู้เดียว ครึ่งหนึ่งของสนามกอล์ฟทั้งหมดในสหราชอาณาจักรยังคงสร้างเป็นสนามกอล์ฟแบบ 9 หลุม การแข่งขันกอล์ฟ 18 หลุมนั้นเริ่มต้นในปี ค.ศ. 1933 แต่ก็ยังไม่ได้กำหนดให้เป็นกติกาทางการของกอล์ฟจนถึงปลายปี 1950 ตราบจนถึงปัจจุบัน

ดังนั้น เหตุผลที่สนามกอล์ฟมี 18 หลุม อย่างน้อยส่วนหนึ่งเป็นความประจวบเหมาะของประวัติศาสตร์ ที่เรียกได้ว่าเป็นจังหวะอยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยน และสร้างมาตราฐานให้กับสนามต่างๆ อยู่พอดี จึงมาหยุดอยู่ที่ 18 หลุมก็ว่าได้

**สั่งซื้อสินค้ากอล์ฟออนไลน์จากทุกแบรนด์ชั้นนำ ผ่าน HotGolf Shop สอบถามสินค้าได้ที่คลิก https://line.me/R/ti/p/%40hotgolf