Test Equipment : Bushnell Tour V4, Tour V4 Shift และ Pro X2

หลังจากทดสอบอุปกรณ์กอล์ฟกันไปหลายแบรนด์แล้ว ครั้งนี้ทีมงาน HotGolf ได้โอกาสทดสอบฝั่งแอคเซสซอรี่กันบ้าง กับกล้องวัดระยะแบรนด์ Bushnell ชนิดครบทั้ง 3 โมเดลที่มีวางขายในปัจจุบันคือ Tour V4, Tour V4 Shift และ Pro X2

กล้องวัดระยะของ Bushnell ถือเป็นกล้องวัดระยะที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 จากนักกอล์ฟทั่วโลก ไม่ว่าจะในทัวร์ หรือในระดับสมัครเล่น ยกตัวอย่าง “โปรช้าง” ธงชัย ใจดี เองก็ใช้กล้องวัดระยะของ Bushnell เช่นกัน ในการทำ yardege book ช่วงรอบซ้อมก่อนลงแข่งขันจริง รวมไปถึงโปรระดับโลกอีกหลายๆ คน

สิ่งที่ทำให้ Bushnell ถูกยกให้เป็นกล้องวัดระยะอันดับ 1 ของเกมกอล์ฟ นั่นก็เพราะด้วยความแม่นยำและรวดเร็วในการบอกระยะ, คุณภาพในการผลิตและวัสดุตัวเครื่อง ไปจนถึงการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน เรียกว่าสมบูรณ์แบบในทุกด้าน จนกล้าการันตีเป็นว่ากล้องวัดระยะอันดับ 1 ของวงการกอล์ฟ ดังคำที่อยู่บนโลโก้ของพวกเขาว่า The #1 Rangefinder in Golf

สำหรับทั้ง 3 รุ่นที่เรานำมาทดสอบจะมีคุณสมบัติและรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันไปเล็กน้อย ไล่ตั้งแต่รุ่นแรกสุดในบรรดา 3 รุ่นนี้คือ Tour V4 ที่ถือเป็นรุ่นมาตรฐานที่เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่สามารถจับธงได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำอย่าง PinSeeker with JOLT technology ที่จะจับระยะเฉพาะเป้าหมายหรือธงเท่านั้น โดยตัดการรบกวนหลังพื้นหลังของเป้าหมายออก รวมถึงเมื่อจับธงได้ตัวเครื่องจะมีการสั่นเล็กน้อย เป็นสัญญานว่าสามารถจับธงได้แล้ว และระยะที่ได้จะมีความแม่นยำ +/- ไม่เกิน 0.5-1 หลา ขณะที่ระยะทำการของกล้องรุ่นนี้จะอยู่ที่ 5-1,000 หลา และจับธงได้ถึงระยะกว่า 400 หลา มีพลังในการซูม 5 เท่า และสามารถปรับโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว

ขณะที่รุ่น Tour V4 Shift จะเป็นโมเดลที่ต่อยอดขึ้นมาจาก Tour V4 โดยเพิ่มคุณสมบัติในการวัดสโลป วัดความลาดเอียงสูงต่ำของพื้นได้ด้วย เพื่อชดเชยระยะการเล็งธงมีความถูกต้องแม่นยำยิ่งกว่าเดิม ซึ่งตามหลักแล้วผิดกฎไม่สามารถใช้ในการแข่งขันได้ แต่ทาง Bushnell ก็ดีไซน์ให้สามารถปิดโหมดดังกล่าวได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้ถูกกฎสามารถใช้ในการแข่งขันได้ เพียงเลื่อนแถบโลโก้ Tour V4 ลงให้ปิดคำว่า Slope Edition ก็เท่ากับจะเป็นปิดโหมดวัดสโลปทันที จากที่กล้องวัดระยะสมัยก่อนจะต้องถอดเปลี่ยนหน้าเพื่อเปิด-ปิดโหมดวัดสโลป แต่รุ่น Tour V4 Shift ถูกพัฒนาให้เปิด-ปิดโหมดได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น

และล่าสุดกับรุ่น Pro X2 ที่พัฒนาไปอีกขั้น โดยยังคงมาพร้อม JOLT technology และระบบเปิด-ปิดโหมดวัดสโลปอย่างง่ายดายเช่นเดียวกันกับ Tour V4 Shift แต่ก็ถูกพัฒนาประสิทธิภาพด้านต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระยะทำการที่เพิ่มเป็นสูงสุด 1,300 หลา และระยะจับธงที่ 450 หลา, กำลังขยายมากถึง 6 เท่า, เพิ่มคุณสมบัติ E.S.P. ที่ให้ความแม่นยำในระดับบอกจุดทศนิยมที่ระยะ 5-125 หลา และ Dual Display Technology ที่ปรับสีการแสดงผลระหว่างดำ หรือแดงที่จะช่วยให้เห็นชัดมากขึ้นในที่มืด

นอกจากนี้ตัวเครื่อง Pro X2 ก็ยังปรับภาพลักษณ์ด้วยสีดำเหมาะกับนักกอล์ฟที่จริงจังในเกมกอล์ฟ ตัวเครื่องหุ้มด้วยเกราะโลหะที่แข็งแรงและทนทานยิ่้งกว่าเดิม แถมจะมาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำอีกด้วย

นักกอล์ฟที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ลีโอเนียน (ประเทศไทย) จํากัด โทร.02-056-1880

Test by อรรถพล โล่สุวรรณ หัวหน้ากองบรรณาธิการนิตยสาร HotGolf
ครั้งนี้ผมได้ทดสอบกล้องวัดระยะจาก Bushnell ที่ขึ้นชื่อหายห่วงอยู่แล้วเรื่องคุณภาพ ทั้งประสิทธิภาพด้านการบอกระยะ และตัววัสดุ โดยทั้ง 3 โมเดลจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างและลดหลั่นกันไป นำมาโดยรุ่นใหม่อย่าง Pro X2 ที่ใส่เทคโนโลยีมาแบบจัดเต็มและมีลูกเล่นค่อนข้างเยอะ โดยนักกอล์ฟสามารถเลือกใช้รุ่นที่มีคุณสมบัติตามที่ตัวเองต้องการ ยกตัวอย่างถ้าต้องการแค่วัดระยะอย่างเดียวเท่านั้น ก็สามารถเลือกใช้รุ่น Tour V4 ได้เลยครับ คุณสมบัติที่ติดตัวเครื่องมาก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอยากได้ลูกเล่นเยอะๆ มองกลางคืนหรือที่มืดได้ด้วย ก็ต้องแนะนำเป็นรุ่น Pro X2 โดยความแม่นยำและความรวดเร็วในการวัดระยะหรือจับธงนั้นถือว่ารวดเร็วใกล้เคียงกันทั้งสามรุ่น

ขณะที่จากการทดสอบ ต้องบอกว่าทั้งสามรุ่นสมราคาอย่างยิ่งกับการเป็นแบรนด์ Bushnell สามารถวัดระยะได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบเปิด-ปิดโหมดวัดระยะที่ทำได้ง่ายดายแค่ปลายนิ้วสัมผัส ขณะที่ตัวเครื่องทั้งสามรุ่นจับถนัดมือใช้ง่าย ชนิดที่ว่าไม่ต้องศึกษา หยิบขึ้นมาเล็งก็ใช้งานได้ทันที โดยเฉพาะ Pro X2 ที่ใช้วัสดุเป็นโลหะ ทำให้ดูแข็งแรงเป็นพิเศษ แถมยังกันน้ำอีกด้วย หายห่วงเมื่อต้องพกไปในวันที่ฝนตก

ขอแนะนำนักกอล์ฟเลยครับ กล้องวัดระยะ Bushnell สามารถใช้ได้ดีกับนักกอล์ฟทุกระดับฝีมือ ที่ต้องการพัฒนาผลงานของตัวเอง หรือลดสกอร์ ไล่ตั้งแต่การใช้สนามไดร์ฟเพื่อให้เราสามารถรู้ระยะที่แท้จริง เพื่อนำไปใช้วางแผนในการฝึกซ้อม หรือการเล่นจริงๆ ที่จะช่วยลดสกอร์ให้กับนักกอล์ฟได้ไม่มากก็น้อย เพราะกล้องไม่ใช่แค่วัดระยะธงเท่านั้น แต่ยังสามารถวัดอุปสรรคในสนามได้ด้วย ตัวเครื่องนั้นทนทานอยู่แล้ว แนะนำลงทุนครั้งเดียวใช้ได้นานๆ เลยครับ โดยเฉพาะเมื่อเป็นกล้อง Bushnell นั้นมั่นใจทั้งเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอน