ของมันต้องมี!! รวมไอเท็มกอล์ฟสุดร้อนแรงของปี 2018

“หมดไปเท่าไหร่กับคำว่าของมันต้องมี”

วลีนี้น่าจะเป็นวลีที่เคยผ่านหรือคุ้นหูท่านนักกอล์ฟผู้อ่านนิตยสาร HotGolf มาบ้างไม่มากก็น้อย กับบรรดาอุปกรณ์ต่างๆ หรือแอคเซสซอรี่ทั้งหลาย ที่นักกอล์ฟด้วยกันคงเข้าใจกันเป็นอย่างดี บางสิ่งอาจไม่ใช่ของจำเป็น แต่ถ้าขึ้นชื่อว่า ควรต้องมี หลายท่านก็พยายามหาซื้อมาใช้ติดตัวให้ได้

ตลอดผ่านปี 2017 ที่ผ่านมา จนมาถึงต้นปี 2018 มีอุปกรณ์หลายชิ้นที่โดดเด่นขึ้นมา ให้นักกอล์ฟหลายท่านต้องหาซื้อมาไว้ครอบครอง แต่ตกหล่นชิ้นไหนหรือไม่? อะไรอีกที่คุณควรมี? ในเรื่องเด่น Cover Story ของเราฉบับนี้ ได้คัดสรรอุปกรณ์ชิ้นเด่นในคอนเซ็ปต์ “ของมันต้องมี” มาฝากกัน กับไอเท็มสุดร้อนแรงของปี 2018…

Bushnell Pro X2
แม้การเล่นกอล์ฟของบ้านเราจะมีแคดดี้คอยบอกระยะแล้ว แต่ที่จริงแล้วการมีกล้องวัดระยะดีๆ สักตัว จะช่วยคุณได้มากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาการเล่น เพิ่มความแม่นยำ และช่วยลดสกอร์ โดยคงไม่มีกล้องวัดระยะแบรนด์ใดจะได้ยอมรับเท่ากับ Bushnell อีกแล้ว
Bushnell เพิ่งส่งกล้องวัดระยะรุ่นใหม่ “Pro X2” โดยมีการพัฒนาขึ้นมาในหลายจุด รวมถึงลูกเล่นต่างๆ โดยยังคงมาพร้อม JOLT technology ที่จับธงได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว รวมถึงระบบเปิด-ปิดโหมดวัดสโลปได้อย่างง่ายดาย ขณะที่คุณสมบัติหลักมาพร้อมระยะทำการที่เพิ่มเป็นสูงสุด 1,300 หลา และระยะจับธงที่ 450 หลา, กำลังขยายมากถึง 6 เท่า, เพิ่มคุณสมบัติ E.S.P. ที่ให้ความแม่นยำในระดับบอกจุดทศนิยมที่ระยะ 5-125 หลา และ Dual Display Technology ที่ปรับสีการแสดงผลระหว่างดำ หรือแดงที่จะช่วยให้เห็นชัดมากขึ้นในที่มืด
Bushnell Pro X2 มาพร้อมประสิทธิภาพและลูกเล่นที่มากขึ้น และถ้าคุณกำลังมองหากล้องวัดระยะดีๆ ติดตัว Bushnell Pro X2 ตอบโจทย์คุณได้ทุกด้านอย่างแน่นอน

Callaway GBB Epic
สร้างปรากฎการณ์ความร้อนแรงตลอดปี 2017 ที่ผ่านมา สำหรับหัวไม้ตระกูล Great Big Bertha “Epic” จาก Callaway ที่ถูกพูดถึงตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี โดยเฉพาะเมื่อถูกเลือกใช้จากนักกอล์ฟชื่อดังหลายต่อหลายคน
Callaway GBB Epic โดดเด่นด้วย Jailbreak Technology แท่งคาร์บอนทรงกลม 2 แท่งภายในหัวไม้ใกล้กับหน้าไม้ เชื่อมกับทั้งฝั่งท้องไม้และกระดอง เพื่อลดการยืดหยุ่นและเสียพลังงาน ทำให้หน้าไม้สะสมพลังงานไว้ได้อย่างเต็มที่ และปลดปล่อยพลังออกมาช่วยให้ลูกกอล์ฟทำระยะไปได้ไกลยิ่งขึ้น และนอกจากนี้หัวไม้ Epic ยังได้รวมสุดยอดเทคโนโลยีของ Callaway เอามาไว้ในอีกหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นสันครีบ Speed Step Crown รวมถึงโครงสร้างไทเทเนียม Exo-Cage
หลังจากได้รับผลตอบรับที่ดีจากหัวไม้แล้ว Callaway ยังได้ลอนช์ไม้อื่นๆ ในซีรี่ส์เดียวกันตามมาอีก ไม่ว่าจะเป็นไฮบริดและชุดเหล็ก ขณะเดียวกัน Jailbreak Technology ก็เตรียมถูกนำมาต่อยอดพัฒนาและใช้อีกในหัวไม้รุ่นต่อไปของ Callaway โดยต้องรอดูกันอีกครั้งว่า จะสามารถเปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนกับตระกูล Epic หรือไม่

Titleist 718 AP3
เปิดตัวได้อย่างน่าจับตามองเสมอ สำหรับซีรี่ส์ชุดเหล็กของ Titleist และกับซีรี่ส์ใหม่เอี่ยม “718” ยิ่งได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ เมื่อมีลอนช์โมเดลใหม่อย่าง “AP3” ออกมาพร้อมกันด้วย
ก่อนหน้านี้โมเดลชุดเหล็ก AP1 และ AP2 ของ Titleist ค่อนข้างแบ่งกลุ่มผู้ใช้งานชัดเจน ก่อนจะมีการเพิ่มโมเดล AP3 เพื่อเติมเต็มช่องว่างดังกล่าว แต่ก็มีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนเช่นกันคือ เป็นเหล็กที่มีขนาดใบแบบที่นักกอล์ฟจริงจังชื่นชอบ และตีได้ไกลที่สุด
AP3 เป็นโมเดลที่ถูกวางให้จุดเด่นด้านการสร้างระยะทาง ด้วยการออกแบบที่ใช้นวัตกรรมโครงสร้างใบเหล็กแบบมีโพรงด้านใน พร้อมเทคโนโลยีหน้าไม้ที่สร้างความเร็วได้สูง ด้วยหน้าเหล็กที่บาง โครงสร้างเป็นรูปทรงตัว L และไม่มีวัสดุรองรับด้านหลัง ทำให้ตีได้วิถีลูกสูง ได้ระยะไกล พร้อมให้สปินสูงในการหยุดลูก แม้ว่าจะเป็นการตีในช็อตยาวก็ตาม แต่ขณะเดียวกันก็ยังให้ความสำคัญกับคุณสมบัติการชดเชยความผิดพลาดด้วยเช่นกัน จากการถ่วงด้วยทังสเตนทำให้ใบเหล็กให้มีค่า MOI สูง
Titleist 718 AP3 กลายเป็นหนึ่งในโมเดลเหล็กที่ได้รับความนิยมทันที แม้จะเพิ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรก แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อพิจารณาจากคุณสมบัติที่ถูกออกแบบมา เพราะใครกันจะไม่อยากได้เหล็กที่ตีง่ายและตีได้ไกลเช่นนี้ จริงไหมครับ?

Spikeless Golf Shoe
ถือเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงมากของวงการกอล์ฟในระยะหลัง กับรองเท้ากอล์ฟแบบไร้ปุ่ม หรือ “Spikeless” พิสูจน์ด้วยจากความนิยมในรองเท้ารุ่น FootJoy Pro/SL ที่ก้าวขึ้นมาเป็นโมเดลเรือธง หลังถูกเลือกสวมใส่โดยผู้เล่นชื่อดังหลากหลายคน นำโดย อดัม สกอตต์
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้รองเท้าไร้ปุ่มได้รับความนิยมมากขึ้น คงต้องยกให้การพัฒนาในส่วนการของยึดเกาะที่ทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ชนิดที่ว่าแทบไม่เป็นรองเท้ากอล์ฟแบบมีปุ่มปกติ แต่ขณะเดียวกันก็มีจุดเด่นที่มาทดแทนได้ อาทิ ลดการล้าจากการเดินเล่นกอล์ฟนานๆ ได้ดี รวมถึงสามารถใส่เดินออกจากสนามหลังเล่นกอล์ฟเสร็จได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรองเท้าให้มากเรื่องแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันในตลาดรองเท้ากอล์ฟก็เริ่มมีรองเท้าแบบไร้ปุ่มให้เลือกมากรุ่นขึ้นเรื่อยๆ เกือบทุกแบรนด์เสริมไลน์รองเท้ากอล์ฟแบบไร้ปุ่มมาเป็นตัวเลือกให้กับนักกอล์ฟ ทีนี้ก็อยู่ที่คุณแล้วว่า รุ่นไหนจากแบรนด์ใดที่ถูกตาต้องใจคุณมากที่สุด

FlightScope Mevo
ถึงแม้ตลาดเครื่องลอนช์มอนิเตอร์อาจจะไม่ได้มีการแข่งขันที่สูง มีแบรนด์ใหญ่ๆ ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่เพียงไม่กี่แบรนด์ แต่ปีที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นนวัตกรรมเครื่องลอนช์มอนิเตอร์แบบใหม่ที่ออกมาวางขายกับเครื่อง
FlightScope Mevo ขนาดเล็กจิ๋ว แต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ
FlightScope Mevo ชูจุดขายเป็นเครื่องลอนช์มอนิเตอร์ขนาดเล็กชนิดที่สามารถพกพาไปไหนได้สะดวก นอกจากนี้ยังใช้งานง่าย และให้ข้อมูลที่นักกอล์ฟต้องการทราบอย่างครบถ้วนในระดับที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นค่าความเร็วหัวไม้, บอลสปีด, Smash Factor, มุมเหิน, อัตราสปิน ด้วยความแม่นยำ ทำให้เจ้าตัว FlightScope Mevo ค่อนข้างได้รับความสนใจอย่างมาก ที่สำคัญราคาไม่แพง แค่เพียงสองหมื่นต้นๆ เท่านั้น คุณก็จะได้เครื่องลอนช์มอนิเตอร์ส่วนตัวไว้ใช้แล้ว!

Infinte
พูดถึงแบรนด์อุปกรณ์และแอคเซสซอรี่กันไปแล้ว เราขอปิดท้ายกันที่แบรนด์เสื้อผ้า และแบรนด์ที่มาแรงและได้รับการจับตามองอย่างมากในปีที่ผ่านมา คงต้องยกให้กับ “Infinite” ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “แบรนด์คนไทยที่ทำให้คนไทยใส่”
Infinite เน้นสไตล์การดีไซน์เสื้อแบบที่ใส่แล้วดูดี กึ่งสมาร์ท กึ่งแคชชวล ขณะที่การตลาดใช้รูปแบบแบบพูดปากต่อปาก และทางโซเชียลมีเดียเป็นหลัก รวมถึงการสนับสนุนให้โปรอาชีพได้สวมใส่ลงแข่งขัน และก็ทำให้เสื้อรวมถึงตราโลโก้ของพวกเขาเป็นที่จดจำมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคอลเล็คชั่น “Center Line” ที่ชูจุดเด่นดีไซน์เรียบง่าย แต่มีเสน่ห์ และมีเส้นกลางหลังอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ Infinite ยังได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นกางเกงทั้งขาสั้น, กางเกงขายาว และหมวก ก่อนต้องรอดูหลังจากนี้ว่ามีโปรดักส์อะไรตามหลังจากนี้อีกสำหรับแบรนด์ Infinite